- 1 1. Git คืออะไร? เหตุผลที่ควรติดตั้ง Git บน Ubuntu
- 2 2. การเตรียมตัวก่อนติดตั้ง Git
- 3 3. วิธีติดตั้ง Git จากรีโพสิทอรีมาตรฐานของ Ubuntu
- 4 4. การตั้งค่าเริ่มต้นของ Git
- 5 5. วิธีโคลน Git Repository
- 6 6. การแก้ปัญหาเมื่อเกิดข้อผิดพลาดด้านการยืนยันตัวตนหรือสิทธิ์ หรือการชนกันของข้อมูล
- 7 7. ขั้นตอนการสร้าง Pull Request บน GitHub
- 8 8. สรุปและขั้นตอนถัดไป
1. Git คืออะไร? เหตุผลที่ควรติดตั้ง Git บน Ubuntu
พื้นฐานของ Git
Git เป็นระบบจัดการเวอร์ชันแบบกระจาย (Distributed Version Control System) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีนักพัฒนาหลายคนทำงานพร้อมกัน สามารถจัดการโปรเจกต์ได้ทั้งแบบรีโมตและโลคัล พร้อมบันทึกประวัติการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดไว้
การใช้งานบน Ubuntu
Ubuntu เป็นสภาพแวดล้อมการพัฒนาแบบโอเพ่นซอร์สที่ยอดเยี่ยม และมีความเข้ากันได้กับ Git สูง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักพัฒนา
2. การเตรียมตัวก่อนติดตั้ง Git
อัปเดตระบบ
อัปเดตระบบให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดด้วยคำสั่งต่อไปนี้:
sudo apt update
sudo apt upgrade
ตรวจสอบสิทธิ์ sudo
ต้องมีสิทธิ์ sudo
ในการติดตั้ง ใช้คำสั่ง whoami
เพื่อตรวจสอบว่าผู้ใช้มีสิทธิ์แอดมินหรือไม่

3. วิธีติดตั้ง Git จากรีโพสิทอรีมาตรฐานของ Ubuntu
sudo apt install git
แนะนำให้ติดตั้งเวอร์ชันล่าสุดโดยใช้ PPA ด้วยคำสั่งเหล่านี้:
sudo add-apt-repository ppa:git-core/ppa
sudo apt update
sudo apt install git
4. การตั้งค่าเริ่มต้นของ Git
ตั้งชื่อผู้ใช้และอีเมล
ก่อนใช้งาน Git ต้องตั้งชื่อผู้ใช้และอีเมลที่จะแสดงในประวัติการ commit ก่อน
git config --global user.name "Your Name"
git config --global user.email "your_email@example.com"
5. วิธีโคลน Git Repository
ใช้คำสั่งต่อไปนี้เพื่อโคลนรีโมตรีโพสิทอรี:
git clone https://github.com/example/repo.git
6. การแก้ปัญหาเมื่อเกิดข้อผิดพลาดด้านการยืนยันตัวตนหรือสิทธิ์ หรือการชนกันของข้อมูล
ข้อผิดพลาดการยืนยันตัวตนขณะใช้ git push
ตั้งแต่ปี 2021 GitHub และบริการอื่น ๆ เลิกใช้การยืนยันด้วยรหัสผ่าน และแนะนำให้ใช้ Personal Access Token (PAT) หรือ SSH แทน หากเกิดปัญหา authentication กับ git push
ให้ลองขั้นตอนเหล่านี้:
- สร้าง PAT: สร้าง PAT ในหน้าตั้งค่าของ GitHub และใช้แทนรหัสผ่านเมื่อ
git push
ครั้งต่อไป - ตรวจสอบ SSH key: ถ้าใช้ SSH ให้ตรวจสอบและเพิ่มคีย์ด้วยคำสั่งนี้:
ssh-add ~/.ssh/id_rsa
ข้อผิดพลาดสิทธิ์ขณะใช้ git push
ถ้า git push
แล้วขึ้นข้อความ Permission denied อาจเกิดจากไม่มีสิทธิ์ในรีโมตรีโพสิทอรี ลองแก้ไขโดยทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
- ตรวจสอบการตั้งค่า remote:
git remote -v
git remote show origin
- ตรวจสอบสิทธิ์ push: ติดต่อเจ้าของรีโมตรีโพสิทอรีเพื่อตรวจสอบสิทธิ์หรือขอเพิ่มสิทธิ์
- อัปเดต URL ของ remote: ตั้งค่า URL ของ remote ให้ถูกต้องด้วย:
git remote set-url origin <URL ใหม่>
ข้อผิดพลาด remote branch ขณะใช้ git pull
หาก git pull
แล้วขึ้นว่าไม่พบ remote branch ให้ลองแก้ไขดังนี้:
- ตรวจสอบ remote branch:
git branch -r
- ตั้งค่า branch สำหรับการติดตาม:
git branch --set-upstream-to=origin/<branch> <branch>
- ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงที่ remote: ใช้
git fetch
เพื่อดึงข้อมูลล่าสุด ถ้า remote branch ถูกลบจะเกิด error เมื่อgit pull

7. ขั้นตอนการสร้าง Pull Request บน GitHub
การสร้าง Pull Request บน GitHub ประกอบด้วย การสร้าง branch, commit, push ไปที่ remote และสร้าง pull request
8. สรุปและขั้นตอนถัดไป
เมื่อคุ้นเคยกับการใช้ Git เบื้องต้นและการแก้ปัญหาแล้ว แนะนำให้ศึกษาคำสั่ง git rebase
หรือ Git Flow เพื่อใช้งานขั้นสูงต่อไป