- 1 1. บทนำ: เหตุผลที่ใช้ Remote Desktop บน Ubuntu
- 2 2. เปรียบเทียบวิธีการใช้ Remote Desktop บน Ubuntu: VNC vs RDP
- 3 3. วิธีเปิดใช้งาน RDP (Remote Desktop) บน Ubuntu 22.04 [อัพเดตล่าสุด]
- 3.1 Ubuntu 22.04 มาพร้อมฟีเจอร์ RDP ในตัว
- 3.2 เตรียมความพร้อมและข้อควรตรวจสอบก่อนเริ่มใช้งาน
- 3.3 วิธีเข้าสู่ระบบด้วย X.org
- 3.4 ขั้นตอนเปิดใช้งาน Remote Desktop
- 3.5 ขั้นตอนการเชื่อมต่อจาก Windows ไปยัง Ubuntu
- 3.6 ตั้งค่าไฟร์วอลล์ (ถ้าจำเป็น)
- 3.7 ปัญหาที่พบบ่อยและวิธีแก้ไข
- 3.8 ข้อควรทราบ: เหมาะสำหรับใช้งานใน LAN
- 4 4. วิธีเชื่อมต่อ Remote Desktop ด้วย xrdp ใน Ubuntu 20.04 หรือต่ำกว่า
- 5 5. วิธีเชื่อมต่อด้วย VNC Server (vino / tightvnc ฯลฯ)
- 6 6. วิธีเชื่อมต่อจาก Windows ไป Ubuntu [แนะนำ Client]
- 6.1 ต้องมีโปรแกรมฝั่ง Client ที่ Windows ด้วย
- 6.2 กรณีใช้ RDP: Windows Remote Desktop Connection (mstsc)
- 6.3 กรณีใช้ VNC: ใช้โปรแกรม VNC Viewer
- 6.4 Remmina: Client ครอบจักรวาล (ใช้บน Ubuntu หรือ Windows ก็ได้)
- 6.5 วิธีดู IP Address ฝั่ง Ubuntu
- 6.6 เรื่องที่เกี่ยวกับเครือข่าย (LAN)
- 6.7 สรุป: เลือก Client ให้เหมาะกับวัตถุประสงค์
- 7 7. การแก้ปัญหาเกี่ยวกับการตั้งค่าคีย์บอร์ดและการพิมพ์ภาษาญี่ปุ่น
- 7.1 ปัญหา “พิมพ์ภาษาญี่ปุ่นไม่ได้” ขณะเชื่อมต่อรีโมท
- 7.2 พิมพ์ภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ / IME ไม่ทำงาน
- 7.3 ปุ่ม半角/全角 ใช้ไม่ได้ หรือ Key Mapping เพี้ยน
- 7.4 พิมพ์ \ หรือ | ไม่ได้ (ปัญหาใน RDP)
- 7.5 หากสลับโหมดป้อนภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ ลองใช้คีย์ลัดอื่น
- 7.6 กรณีสุดท้าย: พิมพ์ในเครื่อง Windows แล้วค่อย copy ไป Ubuntu
- 7.7 สรุป: ปัญหาการป้อนภาษาญี่ปุ่นและคีย์บอร์ดขึ้นกับวิธีรีโมท
- 8 8. วิธีเชื่อมต่อที่เน้นความปลอดภัย (SSH Tunnel)
- 8.1 Remote Desktop กับความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
- 8.2 SSH Tunnel คืออะไร? หลักการทำงาน
- 8.3 การเตรียม SSH Server ฝั่ง Ubuntu
- 8.4 สร้าง SSH Tunnel จาก Windows (ตัวอย่างสำหรับ VNC พอร์ต 5901)
- 8.5 ใช้กับ RDP ก็ได้ (ตัวอย่างสำหรับพอร์ต 3389)
- 8.6 เพิ่มความปลอดภัยด้วย Public Key Authentication
- 8.7 ข้อดี-ข้อเสียของ SSH Tunnel
- 8.8 สรุป: ถ้าต้องเชื่อมต่อจากนอกบ้าน ควรใช้ SSH Tunnel เสมอ
- 9 9. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Remote Desktop บน Ubuntu (FAQ)
- 9.1 Q1. เชื่อมต่อ Remote Desktop กับ Ubuntu ไม่ได้ มีสาเหตุอะไรบ้าง?
- 9.2 Q2. ภาพรีโมทกระตุกหรือหลุดบ่อย ทำอย่างไร?
- 9.3 Q3. รีโมทจาก Ubuntu ไป Windows ได้ไหม?
- 9.4 Q4. จะเชื่อมต่อจากภายนอกองค์กร (Internet) ต้องทำยังไง?
- 9.5 Q5. เชื่อมต่อโดยไม่ต้องใส่รหัสผ่านได้หรือไม่?
- 9.6 Q6. พิมพ์ภาษาญี่ปุ่นไม่ได้หรือ key เพี้ยน เพราะอะไร?
- 9.7 Q7. รีโมท Desktop ฟรีไหม?
- 9.8 Q8. ให้หลายคนควบคุม Ubuntu พร้อมกันได้ไหม?
- 9.9 Q9. ระหว่างรีโมท Ubuntu เข้าสู่ Sleep หรือ Suspend แล้วหลุด ต้องแก้ยังไง?
- 9.10 Q10. เลือกใช้ RDP หรือ VNC ดี?
- 10 10. สรุป: ใช้งาน Remote Desktop กับ Ubuntu ได้ง่ายและปลอดภัย
1. บทนำ: เหตุผลที่ใช้ Remote Desktop บน Ubuntu
การใช้งาน Ubuntu จากระยะไกลกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ระบบปฏิบัติการ Linux เช่น Ubuntu ในอดีตถูกมองว่าเป็นของนักพัฒนาและผู้ดูแลเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น และโดยปกติจะใช้งานในสภาพแวดล้อมแบบโลคัล แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การทำงานจากที่บ้านและการนำ Ubuntu มาใช้กับคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้ก็เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการ “ควบคุม Ubuntu จากระยะไกล” เพิ่มสูงขึ้น
ตัวอย่างเช่น การควบคุม Ubuntu Server ที่บ้านจากที่อื่น หรือการติดตั้ง Ubuntu บนโน้ตบุ๊กเก่าเพื่อใช้งานเป็นเครื่องสำหรับพัฒนาแบบรีโมท ขอบเขตการใช้งาน Remote Desktop จึงกว้างขึ้นเรื่อยๆ
ความแตกต่างจาก Windows? ข้อดีเฉพาะตัวของ Ubuntu
หลายคนอาจสงสัยว่า “Windows ก็มี Remote Desktop อยู่แล้ว แล้ว Ubuntu มีข้อดีอะไร?” ความจริงแล้ว Ubuntu มีคุณสมบัติที่เหมาะกับการใช้งานระยะไกล ดังนี้:
- เป็น OS ที่มีน้ำหนักเบาและเสถียร จึงทำงานได้ดีแม้กับเครื่องสเปกต่ำ
- มีความปลอดภัยสูงและเข้ากันได้ดีกับการเชื่อมต่อแบบเข้ารหัส เช่น SSH
- ฟรีและเป็นโอเพนซอร์ส ไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้กับหลายเครื่อง
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ การใช้ Ubuntu เพื่อเรียนรู้การเขียนโปรแกรมหรือใช้งานในฐานะเซิร์ฟเวอร์และควบคุมจากระยะไกลจึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
ใช้งานง่ายแม้สำหรับมือใหม่ที่กลัวว่า “ดูยากเกินไป”
ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับ Linux อาจรู้สึกว่าการตั้งค่า Remote Access ยุ่งยากและต้องใช้คำสั่งเยอะ จริงๆ แล้วในอดีต การเชื่อมต่อรีโมทกับ Ubuntu ต้องตั้งค่า VNC server ด้วยตนเองหรือทำ port forwarding ผ่าน SSH ซึ่งต้องใช้ความรู้พอสมควร
แต่ตั้งแต่ Ubuntu 22.04 LTS ขึ้นไป รองรับการเชื่อมต่อผ่าน RDP (Remote Desktop Protocol) เป็นมาตรฐาน และสามารถตั้งค่าทุกอย่างผ่าน GUI ได้ มือใหม่จึงสามารถเริ่มใช้งาน Ubuntu จากระยะไกลได้ง่ายขึ้นมาก
วัตถุประสงค์และโครงสร้างบทความนี้
บทความนี้จะอธิบายวิธีการเชื่อมต่อ Remote Desktop กับ Ubuntu อย่างละเอียด แม้แต่ผู้เริ่มต้นก็สามารถทำตามได้ง่าย ตั้งแต่การใช้ฟีเจอร์ล่าสุดใน Ubuntu 22.04 ไปจนถึงการตั้งค่า xrdp ในเวอร์ชันเก่า และเทคนิคการเพิ่มความปลอดภัยด้วย VNC และ SSH Tunnel
เราจะเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธี เพื่อให้ผู้อ่านเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายขึ้น ขอให้ติดตามจนจบครับ
2. เปรียบเทียบวิธีการใช้ Remote Desktop บน Ubuntu: VNC vs RDP
โปรโตคอลรีโมทเชื่อมต่อมีหลายแบบ
การเชื่อมต่อ Remote Desktop บน Ubuntu ไม่ได้มีแค่แบบเดียว ที่นิยมหลักๆ มี 3 วิธีดังนี้:
- RDP (Remote Desktop Protocol)
- VNC (Virtual Network Computing)
- SSH (Secure Shell) + X forwarding หรือ tunnel
ในนี้ RDP กับ VNC เป็นแบบที่ถ่ายทอดหน้าจอเดสก์ท็อปโดยตรง และนิยมใช้ในการควบคุมจากระยะไกล ส่วน SSH มักใช้สั่งงานแบบ Command Line หรือเพิ่มความปลอดภัยเป็นพิเศษ
ในบทนี้จะเปรียบเทียบจุดเด่นและจุดต่างของRDP กับ VNC ซึ่งเหมาะสำหรับมือใหม่
RDP (Remote Desktop Protocol) คืออะไร
RDP คือโปรโตคอลที่ Microsoft พัฒนาขึ้น โดยเป็นฟีเจอร์พื้นฐานใน Windows และสามารถใช้ได้กับ Ubuntu ผ่านซอฟต์แวร์ xrdp
ตั้งแต่ Ubuntu 22.04 ขึ้นไป RDP ถูกติดตั้งเป็นมาตรฐานใน GNOME จึงไม่ต้องลง xrdp เพิ่ม สามารถตั้งค่าทุกอย่างผ่าน GUI ได้เลย
จุดเด่นของ RDP:
- เข้ากันได้กับ Windows สูง สามารถใช้เครื่องมือ Remote Desktop ของ Windows ได้ทันที
- แสดงผลหน้าจอได้ลื่นไหลและรวดเร็ว
- มีฟีเจอร์รับรองความปลอดภัยและเข้ารหัสมาตรฐาน
เหมาะกับใคร:
- ผู้ที่ใช้ Ubuntu และ Windows ร่วมกัน
- มือใหม่ที่อยากตั้งค่าด้วย GUI
- ผู้ที่เน้นความปลอดภัยและเสถียรภาพ
VNC (Virtual Network Computing) คืออะไร
VNC เป็นเทคโนโลยี Remote Desktop ที่ใช้ได้หลายแพลตฟอร์ม บน Ubuntu สามารถใช้ vino หรือ tightvncserver เป็นต้น
VNC จะแตกต่างจาก RDP ตรงที่ ถ่ายทอดภาพหน้าจอทีละเฟรม จึงอาจช้ากว่าเล็กน้อย แต่ยืดหยุ่นและแชร์หน้าจอร่วมกับหลายคนได้
จุดเด่นของ VNC:
- รองรับข้ามแพลตฟอร์ม (ต่อจาก Mac หรือ Android ก็ได้)
- แชร์หน้าจอพร้อมกันหลายคนได้
- ความปลอดภัยต่ำกว่า RDP แนะนำใช้ร่วมกับ SSH
เหมาะกับใคร:
- ผู้ที่ต้องการให้หลายคนควบคุม Ubuntu พร้อมกัน
- ต้องการเชื่อมต่อจากเครื่องอื่นนอกจาก Windows
- ผู้ใช้งานระดับกลางถึงขั้นสูงที่ต้องการปรับแต่ง
ตารางเปรียบเทียบ: ความแตกต่างของ RDP กับ VNC
หัวข้อ | RDP | VNC |
---|---|---|
ความง่ายในการเชื่อมต่อ | ◎ (ตั้งค่า GUI / ใช้ Windows ง่าย) | △ (ต้องตั้งค่าเริ่มต้นเล็กน้อย) |
ความลื่นไหลของภาพ | ◎ (ลื่นไหล) | △ (อาจกระตุกบ้าง) |
ความปลอดภัย | ◎ (รองรับการเข้ารหัสมาตรฐาน) | △ (แนะนำใช้งานคู่กับ SSH Tunnel) |
แชร์เซสชัน | × | ○ (หลายคนใช้งานพร้อมกันได้) |
แพลตฟอร์มที่รองรับ | เน้น Windows | ข้ามแพลตฟอร์ม (Linux, Mac, Android ฯลฯ) |
ควรเลือกแบบไหนดี?
มือใหม่หรือผู้ใช้ Windows แนะนำให้ใช้ RDP เพราะตั้งค่าง่าย เสถียร เหมาะสำหรับเริ่มต้นใช้งาน Ubuntu แบบรีโมท
แต่ถ้าต้องการปรับแต่งละเอียด หรือเชื่อมต่อจากเครื่องอื่นที่ไม่ใช่ Windows แนะนำ VNC แต่ควรตั้งค่า SSH Tunnel เพื่อความปลอดภัยด้วย
3. วิธีเปิดใช้งาน RDP (Remote Desktop) บน Ubuntu 22.04 [อัพเดตล่าสุด]
Ubuntu 22.04 มาพร้อมฟีเจอร์ RDP ในตัว
ตั้งแต่ Ubuntu 22.04 LTS เป็นต้นไป เดสก์ท็อป GNOME จะมี ฟีเจอร์ Remote Desktop เป็นมาตรฐาน ไม่จำเป็นต้องติดตั้ง xrdp หรือเครื่องมือเสริมใดๆ เพิ่ม ก็สามารถใช้งาน RDP ได้อย่างง่ายดาย
ด้วยฟีเจอร์นี้ คุณสามารถเชื่อมต่อกับ Ubuntu จาก Windows ผ่าน Remote Desktop Client (mstsc.exe) ได้ทันที เหมาะกับผู้เริ่มต้นใช้งาน
เตรียมความพร้อมและข้อควรตรวจสอบก่อนเริ่มใช้งาน
ก่อนเปิดใช้ RDP ให้ตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้:
- Ubuntu เป็นเวอร์ชัน 22.04 ขึ้นไป
- ใช้ GNOME Desktop
- เข้าสู่ระบบด้วยเซสชัน X.org ไม่ใช่ Wayland (สำคัญ)
ข้อสุดท้ายเรื่อง “X.org” มีความสำคัญมาก เพราะปัจจุบัน Wayland ยังไม่รองรับ RDP ดูวิธีเปลี่ยนเซสชันด้านล่าง
วิธีเข้าสู่ระบบด้วย X.org
- ที่หน้า Login ของ Ubuntu ให้เลือกชื่อผู้ใช้
- ก่อนกรอกรหัสผ่าน ให้คลิก ไอคอนเฟือง (⚙) ด้านขวาล่าง
- เลือก “Ubuntu on Xorg”
- กรอกรหัสผ่านและเข้าสู่ระบบ
ขั้นตอนเปิดใช้งาน Remote Desktop
- เปิดแอป “ตั้งค่า” (Settings)
- เลือกเมนูด้านซ้าย “แชร์” (Sharing)
- คลิก “Remote Desktop”
- เปิดสวิตช์ “Enable Remote Desktop”
- ตั้งค่าการยืนยันตัวตนเป็น “Password” และกำหนดรหัสผ่านตามต้องการ
- ในหัวข้อ “Network” ให้ติ๊ก “Allow users on the local network to connect to this computer”
เพียงเท่านี้ฝั่ง Ubuntu ก็พร้อมสำหรับการเชื่อมต่อรีโมท
ขั้นตอนการเชื่อมต่อจาก Windows ไปยัง Ubuntu
- กดปุ่ม Windows + R แล้วพิมพ์ mstsc เพื่อเปิด Remote Desktop Connection
- กรอก IP Address ของ Ubuntu ลงในช่อง “Computer”
- เมื่อเชื่อมต่อแล้ว จะปรากฏหน้าจอให้กรอก Username และ Password ของ Ubuntu
- เชื่อมต่อสำเร็จ
คุณสามารถดู IP Address ของ Ubuntu ได้ที่ “Settings” > “Wi-Fi” หรือ “Wired Connection” หรือใช้คำสั่งนี้ใน Terminal:
ip a
ตั้งค่าไฟร์วอลล์ (ถ้าจำเป็น)
ถ้าเปิดใช้งาน UFW (Uncomplicated Firewall) บน Ubuntu จะต้องเปิดพอร์ต TCP 3389 สำหรับ RDP:
sudo ufw allow 3389/tcp
และตรวจสอบสถานะหรือรีสตาร์ท UFW:
sudo ufw status
ปัญหาที่พบบ่อยและวิธีแก้ไข
ปัญหา | วิธีแก้ไข |
---|---|
หน้าจอดำเมื่อเชื่อมต่อ | ตรวจสอบว่าเข้าสู่ระบบด้วย X.org |
ไม่สามารถเชื่อมต่อได้ | ตรวจสอบไฟร์วอลล์หรือเครือข่ายว่าอยู่ในวง LAN เดียวกัน |
ไม่มีการตอบสนองหลังกรอกรหัสผ่าน | ตรวจสอบว่าตั้งค่า Remote Desktop ใน GNOME แล้ว |
ข้อควรทราบ: เหมาะสำหรับใช้งานใน LAN
วิธีนี้เหมาะสำหรับ ใช้งานในเครือข่ายเดียวกัน (LAN) หากต้องการเชื่อมต่อจากภายนอก เช่น จากอินเทอร์เน็ต ต้องตั้งค่า VPN, port forwarding หรือ SSH tunnel (จะกล่าวในบทถัดไป)
4. วิธีเชื่อมต่อ Remote Desktop ด้วย xrdp ใน Ubuntu 20.04 หรือต่ำกว่า
Ubuntu 20.04 ต้องติดตั้ง xrdp เพิ่มเอง
Ubuntu 20.04 และเวอร์ชันก่อนหน้า ไม่มีฟีเจอร์ RDP มาตรฐาน หากต้องการเชื่อมต่อจาก Windows ต้องติดตั้งแพ็กเกจ “xrdp” เพื่อให้ Ubuntu ทำงานเป็น RDP server
xrdp เข้ากันได้กับโปรโตคอล RDP ของ Microsoft ดังนั้นจึงใช้ “Remote Desktop Connection” ใน Windows เชื่อมต่อ Ubuntu ได้ง่าย
การติดตั้งและตั้งค่าเบื้องต้น xrdp
ติดตั้ง xrdp บน Ubuntu 20.04 โดยใช้คำสั่ง:
sudo apt update
sudo apt install xrdp -y
หลังติดตั้งเสร็จ xrdp จะเริ่มทำงานอัตโนมัติ สามารถตรวจสอบสถานะด้วย:
sudo systemctl status xrdp
หากขึ้นว่า active (running) แสดงว่าทำงานปกติ
เลือก Desktop Environment (แนะนำ Xfce)
GNOME (ดีฟอลต์ของ Ubuntu) อาจมีปัญหากับ xrdp เช่น หน้าจอดำ หรือเริ่มเซสชันไม่ได้ จึงแนะนำให้ใช้ Xfce ที่เบาและเข้ากันได้ดี
ติดตั้ง Xfce
sudo apt install xfce4 -y
ตั้งค่าเซสชันสำหรับ xrdp ให้ใช้ Xfce
echo "startxfce4" > ~/.xsession
และตั้งสิทธิ์ไฟล์ให้รันได้:
chmod +x ~/.xsession
ในบางกรณีอาจต้องปรับแต่งเรื่อง polkit เพิ่มเติม แต่ส่วนใหญ่สำหรับใช้งานทั่วไป แค่นี้ก็พอ
ตั้งค่า Firewall สำหรับ xrdp
xrdp ใช้พอร์ต 3389/tcp หากเปิดใช้ UFW ให้อนุญาตด้วย:
sudo ufw allow 3389/tcp
วิธีเชื่อมต่อจาก Windows (สรุปอีกครั้ง)
- กด Windows + R พิมพ์
mstsc
เพื่อเปิด Remote Desktop - กรอก IP Address ของ Ubuntu ในช่อง “Computer”
- เมื่อขึ้นหน้าจอ login ของ xrdp ให้ใส่ Username / Password ของ Ubuntu
- เชื่อมต่อสำเร็จ จะเห็นหน้า Xfce Desktop
หมายเหตุ: ดู IP Address ของ Ubuntu ได้โดยใช้ ip a
หรือ hostname -I
ใน Terminal
ปัญหาที่พบบ่อยและวิธีแก้ไข
อาการ | สาเหตุและแนวทางแก้ไข |
---|---|
จอดำหลังเชื่อมต่อ | ให้ใช้ Xfce และกำหนดใน .xsession ว่า startxfce4 |
ขึ้นข้อความว่า “เซสชันสิ้นสุด” | อาจเป็นเพราะเซสชัน GNOME กับ xrdp ไม่ตรงกัน ให้เช็กว่า Xfce ติดตั้งถูกต้อง |
เชื่อมต่อหลุดหลังใส่รหัสผ่าน | อาจเกิดจาก SELinux หรือ polkit ให้ตรวจสอบ log ความปลอดภัย |
ตั้งค่าให้ xrdp เริ่มอัตโนมัติเมื่อเปิดเครื่อง (เลือกทำ)
sudo systemctl enable xrdp
5. วิธีเชื่อมต่อด้วย VNC Server (vino / tightvnc ฯลฯ)
VNC คืออะไร? เทคนิค Remote Desktop ที่ใช้ได้บน Ubuntu
VNC (Virtual Network Computing) คือโปรโตคอลแชร์หน้าจอผ่านเครือข่าย ที่ใช้ได้ทั้ง Windows, Linux, macOS รองรับข้ามแพลตฟอร์ม บน Ubuntu เพียงติดตั้ง VNC Server ก็สามารถเชื่อมต่อจาก PC หรือสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นได้
แม้ VNC จะตั้งค่าซับซ้อนกว่า RDP และความลื่นไหลของภาพจะด้อยกว่าเล็กน้อย แต่ ยืดหยุ่นสูง แชร์หน้าจอหลายคนและรองรับหลายอุปกรณ์ เหมาะสำหรับงานร่วมมือหรือเรียนการสอน
VNC Server ยอดนิยมบน Ubuntu
บน Ubuntu มี VNC Server ให้เลือกใช้งานหลักๆ ดังนี้
ชื่อเซิร์ฟเวอร์ | จุดเด่น |
---|---|
vino | มาพร้อมกับ GNOME ตั้งค่าผ่าน GUI ได้ เหมาะกับมือใหม่ |
tightvncserver | เบา-เร็ว นิยมใช้ในเซิร์ฟเวอร์ ตั้งค่าผ่านคอมมานด์ไลน์ |
x11vnc | เข้าถึงเซสชันที่ล็อกอินอยู่จริง เหมาะกับการแชร์หน้าจอ GUI |
วิธีใช้ vino บน GNOME (Ubuntu 20.04 – 22.04)
GNOME มี vino เป็น VNC Server ติดตั้งในตัว ตั้งค่าทุกอย่างผ่าน GUI ได้
1. ติดตั้งแพ็คเกจ (หากยังไม่มี)
sudo apt install vino -y
2. เปิดใช้งานจาก Settings
- เปิดแอป “ตั้งค่า”
- เลือก “แชร์” > “แชร์หน้าจอ (Screen Sharing)”
- เปิดสวิตช์ “แชร์หน้าจอ”
- เปิดอนุญาตการเข้าถึงผ่านเครือข่าย
- ตั้งรหัสผ่านเพื่อความปลอดภัย (แนะนำ)
หมายเหตุ: หากใช้ Wayland จะไม่รองรับ vino ให้เปลี่ยนไปใช้ X.org (ดูวิธีในหัวข้อก่อนหน้า)
3. ทดสอบการเชื่อมต่อ
จากคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่น เปิด VNC Viewer (เช่น RealVNC, TigerVNC) แล้วกรอก IP ของ Ubuntu เช่น 192.168.1.100:5900
กรณีใช้ CLI แนะนำ tightvncserver
ถ้าใช้ในเซิร์ฟเวอร์ หรือไม่มี GUI แนะนำ tightvncserver
1. ติดตั้ง
sudo apt install tightvncserver -y
2. สร้างรหัสผ่านสำหรับเชื่อมต่อ (ครั้งแรก)
vncserver
จะมีการถามรหัสผ่านขณะรันครั้งแรก
3. เริ่มเซสชัน VNC
vncserver :1
เซสชันจะเริ่มที่พอร์ต 5901
(5900 + เลขดิสเพลย์)
4. ตั้งค่าเดสก์ท็อปแบบเบา (Xfce) สำหรับ VNC (แนะนำ)
tightvnc ไม่ค่อยเข้ากันกับ GNOME แนะนำให้แก้ไข ~/.vnc/xstartup
เป็น
#!/bin/bash
xrdb $HOME/.Xresources
startxfce4 &
และตั้งสิทธิ์รันสคริปต์:
chmod +x ~/.vnc/xstartup
ข้อควรระวัง: ควรใช้ SSH Tunnel เพื่อความปลอดภัย
โปรโตคอล VNC ไม่เข้ารหัสข้อมูล หากเชื่อมต่อจากภายนอก (อินเทอร์เน็ต) แนะนำใช้ SSH Tunnel เสมอ
ตัวอย่าง การเชื่อมต่อผ่าน SSH Tunnel จากเครื่องลูกข่าย:
ssh -L 5901:localhost:5901 your-user@remote-ubuntu
แล้วเชื่อมต่อ VNC Viewer ที่ localhost:5901
จะปลอดภัยสูง
สรุป: VNC ยืดหยุ่นแต่ต้องระวังเรื่องความปลอดภัย
VNC เด่นเรื่อง ความยืดหยุ่นและรองรับหลายแพลตฟอร์ม แต่ถ้าใช้งานจากภายนอกควร ใช้ SSH Tunnel เสมอ
GUI เน้นง่าย — ใช้ vino
เน้นเบา — tightvnc
ต้องการแชร์เซสชัน GUI จริง — x11vnc
เลือกให้เหมาะกับวัตถุประสงค์
6. วิธีเชื่อมต่อจาก Windows ไป Ubuntu [แนะนำ Client]
ต้องมีโปรแกรมฝั่ง Client ที่ Windows ด้วย
ถึงแม้ Ubuntu จะตั้งค่า Remote Desktop แล้ว ฝั่ง Windows ต้องใช้โปรแกรม Client ที่รองรับโปรโตคอลที่เลือกไว้
Windows มี RDP Client (Remote Desktop Connection) มาให้ในตัวอยู่แล้ว แต่มีโปรแกรมทางเลือกอีกหลายแบบ
บทนี้จะแนะนำ โปรแกรมยอดนิยมสำหรับเชื่อมต่อจาก Windows ไป Ubuntu แบบต่างๆ
กรณีใช้ RDP: Windows Remote Desktop Connection (mstsc)
หาก Ubuntu รองรับ RDP (ด้วย xrdp หรือ GNOME RDP) สามารถใช้ Remote Desktop Connection (mstsc.exe) ที่มากับ Windows ได้เลย
ขั้นตอนเชื่อมต่อ
- กด Windows + R แล้วพิมพ์ mstsc กด Enter
- กรอก IP ของ Ubuntu (เช่น 192.168.1.10) ในช่อง “Computer”
- คลิก “Connect”
- กรอก Username/Password ของ Ubuntu
ข้อดี
- ไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เสริม
- ทำงานลื่น เสถียรสูง
- หน้าตาคุ้นเคยสำหรับผู้ใช้ Windows
ข้อควรระวัง
- Ubuntu ต้องรองรับ RDP (xrdp หรือ GNOME RDP)
- เหมาะสำหรับใช้งานใน LAN ถ้าจะเชื่อมต่อจากภายนอกควรตั้งค่า VPN หรือ SSH Tunnel
กรณีใช้ VNC: ใช้โปรแกรม VNC Viewer
ถ้า Ubuntu มี VNC Server ติดตั้งไว้ (vino, tightvnc ฯลฯ) สามารถใช้ VNC Viewer จาก Windows เชื่อมต่อได้
VNC Viewer แนะนำ
ชื่อซอฟต์แวร์ | จุดเด่น |
---|---|
RealVNC Viewer | ใช้ได้ทั้งเชิงพาณิชย์/ส่วนตัว UI ดูดี เหมาะกับมือใหม่ |
TigerVNC Viewer | โอเพนซอร์ส เบา เร็ว |
TightVNC Viewer | มาตรฐาน ใช้งานง่าย |
ตัวอย่างการเชื่อมต่อ (RealVNC)
- ติดตั้งและเปิด RealVNC Viewer
- กรอก
192.168.1.10:5900
หรือ:5901
ตามที่ตั้งค่าไว้ - คลิก Connect แล้วกรอกรหัสผ่าน VNC
- จะเห็นหน้าจอ Ubuntu พร้อมควบคุมจากระยะไกล
ข้อควรระวัง
- การสื่อสารไม่ถูกเข้ารหัส ต้องใช้ SSH Tunnel หากใช้นอก LAN
- ความลื่นไหลของภาพด้อยกว่า RDP
Remmina: Client ครอบจักรวาล (ใช้บน Ubuntu หรือ Windows ก็ได้)
Remmina คือ Remote Desktop Client ที่รองรับทั้ง RDP, VNC, SSH ในตัวเดียว
ใช้งานได้ทั้งบน Linux และ Windows
จุดเด่น
- จัดการโปรไฟล์ RDP/VNC/SSH ได้ในแอปเดียว
- บันทึกการตั้งค่า, สเกลหน้าจอ, ฟีเจอร์ขั้นสูง
- ใช้บน Ubuntu หรือ Windows ก็ได้ สามารถ เชื่อมต่อจาก Ubuntu ไปยัง Windows ได้ด้วย
การติดตั้งบน Windows
- ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ Remmina (https://remmina.org) แล้วติดตั้ง

วิธีดู IP Address ฝั่ง Ubuntu
ก่อนเชื่อมต่อจาก Windows ต้องรู้ IP Address ของ Ubuntu วิธีดู:
ดูผ่าน GUI
- เข้า “ตั้งค่า” > “เครือข่าย” > “แบบใช้สาย” หรือ “Wi-Fi” แล้วดูรายละเอียด
ดูผ่านเทอร์มินัล
ip a
หรือ
hostname -I
ดูค่า 192.168.*.*
ที่แสดง
เรื่องที่เกี่ยวกับเครือข่าย (LAN)
ต้องแน่ใจว่าเครื่องต้นทางและปลายทางอยู่ ในเครือข่ายเดียวกัน (LAN)
ถ้าต้องการเชื่อมต่อจากเน็ตเวิร์กอื่น เช่นนอกบ้าน ต้องใช้ VPN หรือ SSH Tunnel หรือ port forwarding (แต่แบบหลังเสี่ยงความปลอดภัย)
- ตั้งค่า VPN
- ตั้งค่า port forwarding บนเราเตอร์ (ระวังเรื่องความปลอดภัย)
- ใช้ SSH Tunnel เพื่อความปลอดภัย
สรุป: เลือก Client ให้เหมาะกับวัตถุประสงค์
วิธีเชื่อมต่อ | Client แนะนำ | การใช้งานหลัก |
---|---|---|
RDP | Windows Remote Desktop Connection | เชื่อมต่อ Ubuntu จาก Windows ใน LAN |
VNC | RealVNC / TigerVNC / TightVNC | ใช้งานร่วมกับหลายเครื่อง, ต่อจาก Mac หรือสมาร์ทโฟน |
SSH | Remmina | เน้นความปลอดภัย (GUI หรือ Command Line) |
ตั้งค่า Ubuntu แล้ว เลือก Client ที่เหมาะกับ Windows ของคุณ จะใช้งานรีโมทได้อย่างราบรื่น
7. การแก้ปัญหาเกี่ยวกับการตั้งค่าคีย์บอร์ดและการพิมพ์ภาษาญี่ปุ่น
ปัญหา “พิมพ์ภาษาญี่ปุ่นไม่ได้” ขณะเชื่อมต่อรีโมท
เมื่อใช้งาน Ubuntu ผ่าน Remote Desktop อาจพบปัญหา “พิมพ์ภาษาญี่ปุ่นไม่ได้” “ปุ่มสลับโหมด (半角/全角) ใช้ไม่ได้” หรือ “พิมพ์เครื่องหมาย \ ไม่ได้” เป็นต้น สาเหตุหลักมาจากความแตกต่างของเซสชันรีโมทกับโลคัล และการตั้งค่าคีย์บอร์ด
บทนี้จะอธิบายปัญหาที่พบบ่อยเกี่ยวกับการพิมพ์ภาษาญี่ปุ่นและการตั้งค่าคีย์บอร์ด พร้อมวิธีแก้ไขใน Ubuntu เมื่อใช้งานผ่าน Remote Desktop
พิมพ์ภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ / IME ไม่ทำงาน
สาเหตุหลัก
- IME (Input Method) ไม่ได้เปิดขณะใช้รีโมทเซสชัน
- fcitx หรือ ibus ไม่สามารถเชื่อมต่อกับเซสชันรีโมท
- ปัญหาระหว่าง GNOME กับ RDP
วิธีแก้ 1: สั่งรัน fcitx-mozc ด้วยตัวเอง
บน Ubuntu มักใช้ fcitx-mozc สำหรับภาษาญี่ปุ่น หากไม่เปิดอัตโนมัติ สามารถเปิดด้วยคำสั่ง:
fcitx-autostart
หรือ
fcitx -r
วิธีแก้ 2: ตรวจสอบการตั้งค่าภาษาในแต่ละเซสชัน
- เข้า Settings > Region & Language > ตรวจสอบ Input Source
- ดูว่ามี “Japanese (Mozc)” หรือไม่ ถ้าไม่มีให้กด + เพื่อเพิ่ม
หลังตั้งค่า อาจต้อง logout แล้ว login ใหม่เพื่อให้มีผล
ปุ่ม半角/全角 ใช้ไม่ได้ หรือ Key Mapping เพี้ยน
การเชื่อมต่อผ่าน Remote Desktop อาจทำให้ คีย์บอร์ด mapping ผิด โดยเฉพาะถ้าใช้คีย์บอร์ดญี่ปุ่น (JIS) หรืออังกฤษ (US) ตำแหน่ง \ หรือ @ มักไม่ตรง
วิธีแก้: กำหนดเลย์เอาต์คีย์บอร์ดให้ชัดเจน
- เข้า Settings > Region & Language > Input Source
- เลือก “Japanese (Japanese)” หรือ “Japanese (OADG 109A)”
- หรือใช้คำสั่ง
setxkbmap
เพื่อบังคับ:
setxkbmap -model jp106 -layout jp
สามารถใส่คำสั่งนี้ใน .xsession
หรือ .bashrc
เพื่อให้ทำงานอัตโนมัติเมื่อ login รีโมท
พิมพ์ \ หรือ | ไม่ได้ (ปัญหาใน RDP)
มักเกิดกับ RDP เพราะ xrdp รับคีย์โค้ดไม่ตรง
วิธีแก้: แก้ไขไฟล์ mapping คีย์บอร์ด
- แก้ไขไฟล์นี้:
sudo nano /etc/xrdp/km-0411.ini
- ไฟล์นี้คือ mapping สำหรับคีย์บอร์ดญี่ปุ่น อาจต้องปรับแก้ค่าเฉพาะจุด (สำหรับผู้มีประสบการณ์)
ทางเลือกง่ายกว่าคือเปลี่ยนไปใช้ VNC แทน RDP
หากสลับโหมดป้อนภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ ลองใช้คีย์ลัดอื่น
ถ้าปุ่ม 半角/全角 ไม่ทำงาน ลองใช้คีย์ลัดต่อไปนี้
สำหรับ fcitx-mozc:
Ctrl + Space
(ค่าเริ่มต้น)Shift + Space
(สามารถเปลี่ยนได้ใน settings)
สามารถตั้งค่า shortcut ได้ในแอปตั้งค่าของ fcitx
กรณีสุดท้าย: พิมพ์ในเครื่อง Windows แล้วค่อย copy ไป Ubuntu
ถ้ายังพิมพ์ภาษาญี่ปุ่นไม่ได้จริงๆ ให้พิมพ์ใน notepad หรือ editor ฝั่ง Windows แล้ว copy ไป paste ใน Ubuntu เป็นวิธีชั่วคราว
สรุป: ปัญหาการป้อนภาษาญี่ปุ่นและคีย์บอร์ดขึ้นกับวิธีรีโมท
อาการ | สาเหตุหลัก | แนวทางแก้ไข |
---|---|---|
พิมพ์ญี่ปุ่นไม่ได้ | IME ไม่เปิด, เซสชันไม่สอดคล้อง | รีสตาร์ท fcitx-mozc, เพิ่ม input source |
key mapping เพี้ยน | layout ไม่ตรง | ใช้ setxkbmap กำหนด layout |
พิมพ์ \ ไม่ได้ | ปัญหา key map ของ xrdp | แก้ไขไฟล์ mapping หรือใช้ VNC |
การใช้งานรีโมทอาจเจอปัญหาคีย์บอร์ดต่างจากใช้งานปกติ ควรเตรียมวิธีแก้ไขไว้ล่วงหน้า
8. วิธีเชื่อมต่อที่เน้นความปลอดภัย (SSH Tunnel)
Remote Desktop กับความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
ฟีเจอร์ Remote Desktop ของ Ubuntu เช่น RDP หรือ VNC แม้จะสะดวกแต่ หากเปิดพอร์ตสู่ Internet โดยตรงจะเสี่ยงสูง เพราะข้อมูลอาจไม่เข้ารหัส หรือใช้แค่รหัสผ่าน
เสี่ยงต่อ การโจมตีและขโมยข้อมูล จากบุคคลภายนอก
วิธีแก้ปัญหาที่ปลอดภัยคือ ใช้ SSH Tunnel เพื่อสร้าง “อุโมงค์” ที่เข้ารหัส แล้วส่งข้อมูล RDP หรือ VNC ผ่านทางนั้น
[Windows] --(SSH เข้ารหัส)--> [Ubuntu]
|
+--> (ภายในจะส่งข้อมูลพอร์ต VNC หรือ RDP)
SSH Tunnel คืออะไร? หลักการทำงาน
SSH Tunnel คือการใช้ฟีเจอร์ของ SSH (Secure Shell) เพื่อรับส่งข้อมูลของแอปอื่นๆ (เช่น RDP, VNC) ผ่านช่องทางที่ปลอดภัย
ทำให้ข้อมูลทุกอย่าง ถูกเข้ารหัสและปลอดภัย แม้เชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ต
การเตรียม SSH Server ฝั่ง Ubuntu
ถ้ายังไม่ได้ติดตั้ง SSH Server บน Ubuntu ให้ติดตั้งด้วยคำสั่งนี้:
sudo apt update
sudo apt install openssh-server -y
หลังติดตั้งจะเริ่มต้นอัตโนมัติ ตรวจสอบสถานะได้ด้วย:
sudo systemctl status ssh
ถ้าใช้ UFW (Firewall) ให้เปิดพอร์ต SSH (22):
sudo ufw allow ssh
สร้าง SSH Tunnel จาก Windows (ตัวอย่างสำหรับ VNC พอร์ต 5901)
วิธี 1: ใช้เทอร์มินัล (PowerShell) ของ Windows
ssh -L 5901:localhost:5901 your-user@ubuntu-ip
5901:localhost:5901
คือการส่งข้อมูลจากพอร์ต 5901 ของ Windows ไปยัง 5901 ของ Ubuntuyour-user@ubuntu-ip
ให้แทนค่าด้วยชื่อผู้ใช้และ IP ของ Ubuntu
เมื่อสั่งคำสั่งนี้ค้างไว้ ให้เปิด VNC Viewer แล้วเชื่อมต่อที่ localhost:5901
ข้อมูลจะถูกเข้ารหัสทั้งหมด
วิธี 2: ใช้โปรแกรม SSH Client (เช่น Tera Term หรือ PuTTY)
- ใน Tera Term ให้ตั้งค่า “TCP Port Forwarding” กำหนด port ตามต้องการ
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการตั้งค่าผ่าน GUI
ใช้กับ RDP ก็ได้ (ตัวอย่างสำหรับพอร์ต 3389)
ssh -L 3389:localhost:3389 your-user@ubuntu-ip
แล้วให้ Windows Remote Desktop (mstsc) เชื่อมต่อไปที่ localhost:3389
เพิ่มความปลอดภัยด้วย Public Key Authentication
ถ้าอยากให้ SSH ปลอดภัยยิ่งขึ้น แนะนำ ใช้ public key แทนรหัสผ่าน
วิธีสร้าง key บน Windows
- เปิด PowerShell แล้วสั่ง
ssh-keygen
- นำ public key ไปใส่ใน Ubuntu ด้วยคำสั่ง:
ssh-copy-id your-user@ubuntu-ip
หรือจะ copy ด้วยตนเองไปยัง ~/.ssh/authorized_keys
- ใน Ubuntu ตรวจสอบไฟล์
/etc/ssh/sshd_config
ให้มีบรรทัดนี้:
PubkeyAuthentication yes
PasswordAuthentication no
เสร็จแล้วสั่งรีสตาร์ท SSH
sudo systemctl restart ssh
ข้อดี-ข้อเสียของ SSH Tunnel
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
✅ ข้อดี | ข้อมูลถูกเข้ารหัส ปลอดภัยมาก |
✅ ข้อดี | ไม่ต้องเปิดพอร์ต RDP/VNC สู่ Internet โดยตรง |
❌ ข้อเสีย | ตั้งค่าเริ่มต้นยุ่งยาก ต้องใช้คอมมานด์ |
❌ ข้อเสีย | ถ้า tunnel หลุดจะต้องเชื่อมต่อใหม่ |
สรุป: ถ้าต้องเชื่อมต่อจากนอกบ้าน ควรใช้ SSH Tunnel เสมอ
ถ้าจะรีโมทเข้า Ubuntu จากนอกองค์กร หรือจากเน็ตภายนอก
SSH Tunnel คือวิธีที่ปลอดภัย สามารถใช้คู่กับ VNC หรือ RDP ก็ได้
เมื่อชำนาญแล้วจะช่วยให้ใช้งาน remote ได้มั่นใจและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
9. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Remote Desktop บน Ubuntu (FAQ)
Q1. เชื่อมต่อ Remote Desktop กับ Ubuntu ไม่ได้ มีสาเหตุอะไรบ้าง?
A. มีหลายปัจจัย ให้ตรวจสอบจุดเหล่านี้:
- ตรวจสอบ IP Address ว่าถูกต้องหรือไม่
- Ubuntu กับเครื่องต้นทางอยู่ใน LAN เดียวกันหรือไม่
- Firewall (UFW) บล็อกการเชื่อมต่อหรือเปล่า
- กรณี RDP: Ubuntu login ด้วย X.org ไม่ใช่ Wayland หรือไม่
- เซอร์วิส xrdp หรือ VNC ทำงานหรือไม่
ตรวจสอบสถานะบริการต่างๆ ด้วยคำสั่ง:
sudo systemctl status xrdp
sudo systemctl status ssh
Q2. ภาพรีโมทกระตุกหรือหลุดบ่อย ทำอย่างไร?
A. สาเหตุหลักคือ เครือข่ายช้า หรือวิธีวาดภาพต่างกัน แนะนำว่า:
- ถ้าใช้ RDP ตั้งเป็น “Low bandwidth mode” เพื่อเพิ่มความเร็ว
- ถ้าใช้ VNC เลือก desktop แบบเบาเช่น Xfce
- หลีกเลี่ยงการใช้แอปที่กินทรัพยากร (เช่น วีดีโอหรือ 3D) ระหว่างรีโมท
- ใช้สาย LAN จะเสถียรกว่า Wi-Fi
Q3. รีโมทจาก Ubuntu ไป Windows ได้ไหม?
A. ได้ โดยใช้ Remmina ซึ่งรองรับ RDP
ฝั่ง Windows ต้องเปิด Remote Desktop (ต้องเป็น Windows Pro ขึ้นไป)
วิธีใช้ Remmina บน Ubuntu
sudo apt install remmina -y
- เปิด Remmina
- สร้างโปรไฟล์ใหม่ เลือกโปรโตคอล “RDP” กรอก IP และข้อมูลล็อกอินของ Windows
- กดเชื่อมต่อ
Q4. จะเชื่อมต่อจากภายนอกองค์กร (Internet) ต้องทำยังไง?
A. ต้องเลือกหนึ่งในวิธีเหล่านี้:
- ตั้งค่า VPN
- ใช้ SSH Tunnel (ดูรายละเอียดในหัวข้อ 8)
- ตั้งค่า port forwarding ที่เราเตอร์ (ไม่แนะนำเรื่องความปลอดภัย)
หากเน้นความปลอดภัย แนะนำ VPN หรือ SSH Tunnel เท่านั้น
Q5. เชื่อมต่อโดยไม่ต้องใส่รหัสผ่านได้หรือไม่?
A. ถ้าใช้ SSH แนะนำให้ ตั้งค่า public key authentication
RDP หรือ VNC บางกรณีตั้งค่า auto login ได้แต่ไม่แนะนำเพราะความเสี่ยง
Q6. พิมพ์ภาษาญี่ปุ่นไม่ได้หรือ key เพี้ยน เพราะอะไร?
A. ส่วนใหญ่เกิดจาก IME ไม่เริ่มทำงาน หรือ layout คีย์บอร์ดไม่ตรง
ให้ รีสตาร์ท fcitx/ibus, ใช้ setxkbmap หรือดูรายละเอียดในหัวข้อ 7
Q7. รีโมท Desktop ฟรีไหม?
A. ซอฟต์แวร์ Ubuntu, xrdp, Remmina, VNC ทั้งหมด ฟรีและโอเพนซอร์ส
บางโปรแกรม (RealVNC) มีเวอร์ชันเสียเงิน แต่การใช้งานทั่วไปไม่เสียค่าใช้จ่าย
Q8. ให้หลายคนควบคุม Ubuntu พร้อมกันได้ไหม?
A. ถ้าใช้ RDP จะล็อกอินได้ทีละคน
ถ้าใช้ VNC แชร์หน้าจอได้หลายคนพร้อมกัน เหมาะกับการสอนหรือทำงานร่วมกัน
Q9. ระหว่างรีโมท Ubuntu เข้าสู่ Sleep หรือ Suspend แล้วหลุด ต้องแก้ยังไง?
A. ควรตั้ง Ubuntu ไม่ให้เข้าสู่โหมด sleep/suspend
- เข้า “Settings” > “Power” > ตั้งค่า “Suspend” เป็น “Never”
- หรือใช้คำสั่งนี้:
gsettings set org.gnome.settings-daemon.plugins.power sleep-inactive-ac-type 'nothing'
Q10. เลือกใช้ RDP หรือ VNC ดี?
A. ไม่มีคำตอบตายตัว ดูจากจุดประสงค์:
สิ่งที่เน้น | แนะนำใช้ |
---|---|
ความลื่น/วาดภาพเร็ว | RDP |
แชร์หน้าจอหลายคน | VNC |
ใช้งานกับ Windows | RDP |
ความปลอดภัย (เมื่อใช้ SSH Tunnel) | ทั้ง RDP/VNC ได้หมด |
10. สรุป: ใช้งาน Remote Desktop กับ Ubuntu ได้ง่ายและปลอดภัย
Remote Desktop บน Ubuntu ไม่ได้ยากอย่างที่คิด
หลายคนอาจเคยคิดว่า Linux หรือการรีโมทต้องเป็นเรื่องของผู้เชี่ยวชาญ แต่ Ubuntu เวอร์ชันใหม่ติดตั้งและตั้งค่า Remote Desktop ได้ง่ายมาก
Ubuntu 22.04 ขึ้นไปมี RDP ในตัว ใช้งานผ่าน GUI ก็ได้
เวอร์ชันเก่าก็ติดตั้ง xrdp หรือ VNC เพิ่มได้ง่าย
เลือกวิธีเชื่อมต่อให้เหมาะกับเป้าหมาย
Remote Desktop บน Ubuntu มีหลากหลายวิธี
เลือกตามสิ่งที่ต้องการและอุปกรณ์ที่ใช้ จะทำให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เป้าหมาย | วิธีแนะนำ | หมายเหตุ |
---|---|---|
ใช้ในบ้าน สะดวก | RDP (มาตรฐาน Ubuntu/xrdp) | Windows รีโมทได้เร็ว |
ใช้งานนอกบ้าน ปลอดภัย | RDP/VNC + SSH Tunnel | เชื่อมต่อผ่านอุโมงค์เข้ารหัส |
หลายคนใช้ร่วมกัน | VNC (vino/x11vnc) | แชร์หน้าจอสำหรับสอน/ทำงานกลุ่ม |
เน้นสั่งงานผ่าน CLI | SSH (terminal) | เร็ว ปลอดภัย ใช้ทรัพยากรน้อย |
อย่าลืมตั้งค่าความปลอดภัย
Remote Desktop มีความสะดวก แต่ ควรตั้งค่าเรื่องความปลอดภัยให้รอบคอบ
โดยเฉพาะถ้าเปิดพอร์ตจากภายนอก ควร ใช้ SSH Tunnel หรือ VPN
ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง เปิด firewall และหากเป็นไปได้ให้ใช้ public key authentication สำหรับ SSH
ปัญหาเจอบ้างเป็นเรื่องปกติ (แต่แก้ไขได้!)
หากเจอปัญหาเรื่องพิมพ์ภาษา หรือการเชื่อมต่อ
กลับมาอ่านบทความนี้ทบทวน หรือค้นหาวิธีแก้ในแต่ละหัวข้อที่แนะนำไว้
ปัญหาส่วนใหญ่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง
เริ่มต้นก้าวแรกเลย!
เพียงแค่ตั้งค่าให้ถูกต้อง Remote Desktop บน Ubuntu จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและเรียนรู้
แนะนำให้ลองเริ่มจาก RDP ในวง LAN ก่อน แล้วค่อยขยับไปใช้ VNC หรือ SSH Tunnel ตามความเหมาะสม
ขอให้สนุกกับการใช้งาน Ubuntu Remote Desktop!
จบเนื้อหาคู่มือการเชื่อมต่อ Remote Desktop กับ Ubuntu แบบสมบูรณ์
ขอบคุณที่ติดตามจนจบครับ!