การตั้งค่าเครือข่าย Ubuntu: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับมือใหม่และผู้ดูแลระบบ [2025]

目次

1. บทนำ

เมื่อใดที่จำเป็นต้องตั้งค่าเครือข่ายใน Ubuntu?

Ubuntu เป็นดิสทริบิวชัน Linux ที่ได้รับความนิยมสูง ใช้งานได้หลากหลายตั้งแต่เดสก์ท็อปจนถึงเซิร์ฟเวอร์ ในหลายกรณีระบบจะตั้งค่าเครือข่ายโดยอัตโนมัติ แต่บางสถานการณ์ก็จำเป็นต้องกำหนดค่าด้วยตนเอง

ตัวอย่างเช่น

  • ตั้งค่า IP แบบคงที่เมื่อใช้งานเป็นเซิร์ฟเวอร์
  • ต้องการระบุ DNS server ด้วยตนเอง
  • ต้องการกำหนดค่าเครือข่ายพิเศษ เช่น VPN
  • ตั้งค่าผ่าน CLI ในกรณีที่ไม่สามารถใช้ GUI ได้

กรณีเหล่านี้ ผู้ใช้จึงควรเข้าใจการตั้งค่าเครือข่ายของ Ubuntu

การตั้งค่าเครือข่ายใน Ubuntu ซับซ้อนหรือไม่?

ในอดีต Ubuntu นิยมแก้ไขไฟล์ /etc/network/interfaces โดยตรง แต่ปัจจุบันใช้ Netplan เป็นมาตรฐาน และบน GUI มักใช้ NetworkManager เป็นหลัก

ด้วยเหตุนี้ ผู้ใช้หลายคนจึงสับสนว่า “ควรตั้งค่าด้วยวิธีไหนดี?”

  • มือใหม่ที่ต้องการตั้งค่าผ่าน GUI ได้ง่าย
  • ผู้ใช้ระดับกลาง-สูงที่ต้องการควบคุมผ่าน CLI
  • ผู้ดูแลระบบที่ต้องการโครงสร้างขั้นต่ำสำหรับ cloud/เซิร์ฟเวอร์

ควรเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับความต้องการแต่ละกลุ่ม

สิ่งที่จะได้จากบทความนี้

บทความนี้อธิบายวิธีตั้งค่าเครือข่ายใน Ubuntu อย่างเข้าใจง่ายสำหรับมือใหม่ พร้อมครอบคลุมเนื้อหาดังนี้:

  • ขั้นตอนการตั้งค่าทั้ง GUI (NetworkManager) และ CLI (Netplan, nmcli)
  • วิธีเชื่อมต่อ LAN/Wi-Fi
  • การตั้งค่า IP แบบคงที่
  • วิธีกำหนด DNS server และเชื่อมต่อ VPN
  • แนวทางแก้ไขปัญหาเครือข่ายที่พบบ่อย
  • FAQ เกี่ยวกับการตั้งค่าเครือข่าย

เมื่ออ่านจบ คุณจะสามารถตั้งค่าเครือข่าย Ubuntu ได้อย่างมั่นใจและตรงตามเป้าหมาย

2. โครงสร้างการตั้งค่าเครือข่ายของ Ubuntu

โครงสร้างพื้นฐานของการจัดการเครือข่ายใน Ubuntu

ใน Ubuntu การตั้งค่าและจัดการเครือข่ายทำได้ผ่าน NetworkManager หรือ Netplan โดยเครื่องมือที่ใช้จะต่างกันตามเวอร์ชันและลักษณะการใช้งาน (เดสก์ท็อปหรือเซิร์ฟเวอร์)

NetworkManager เป็นหลักสำหรับเดสก์ท็อป

สำหรับ Ubuntu Desktop (เช่น Ubuntu 22.04 LTS) ที่มี GUI จะใช้ NetworkManager ในการจัดการเครือข่าย จุดเด่นคือใช้งานง่าย กดปุ่มไม่กี่คลิกก็เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าได้ เหมาะกับมือใหม่

NetworkManager มีฟังก์ชันดังนี้:

  • เชื่อมต่อเครือข่าย LAN/Wi-Fi อัตโนมัติ
  • ตั้งค่า IP ด้วยตนเอง
  • จัดการ DNS และ Proxy
  • จัดการการเชื่อมต่อ VPN

นอกจากนี้ยังมี CLI เช่น nmcli และ nmtui ให้ใช้งานในกรณีที่ไม่มี GUI

Netplan สำหรับเซิร์ฟเวอร์หรือ CLI-only

สำหรับ Ubuntu Server หรือระบบที่ไม่มี GUI จะใช้ Netplan เป็นระบบจัดการเครือข่าย โดยกำหนดค่าผ่านไฟล์ YAML และสั่งใช้คำสั่ง netplan apply

ข้อดีของ Netplan คือ:

  • จัดการไฟล์การตั้งค่าแบบศูนย์กลาง
  • เหมาะกับเครื่องมือ automation เช่น Ansible
  • รองรับ systemd และโครงสร้างที่ทันสมัย

Netplan สามารถสลับ renderer เป็น NetworkManager หรือ systemd-networkd ตามความเหมาะสม

/etc/network/interfaces ไม่แนะนำให้ใช้อีกต่อไป

Ubuntu เวอร์ชันใหม่ไม่แนะนำให้ใช้ไฟล์ /etc/network/interfaces สำหรับตั้งค่าเครือข่าย ยกเว้นกรณีพิเศษหรือเวอร์ชันเก่า (16.04 หรือต่ำกว่า) ตอนนี้ใช้ Netplan (ตัวอย่าง /etc/netplan/01-netcfg.yaml) เป็นมาตรฐาน

3. วิธีเชื่อมต่อเครือข่ายบน Ubuntu

ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบน Ubuntu สามารถเลือกใช้ทั้งเครื่องมือแบบ GUI หรือคำสั่งผ่าน CLI ได้ บทนี้จะอธิบายขั้นตอนการเชื่อมต่อ LAN และ Wi-Fi สำหรับทั้งสองกรณี

เชื่อมต่อเครือข่ายผ่าน GUI (NetworkManager)

การเชื่อมต่อ LAN

โดยทั่วไปแล้ว เพียงเสียบสาย LAN ก็จะเชื่อมต่ออัตโนมัติ หากต้องการตั้งค่า IP ด้วยตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้

  1. คลิกไอคอนเครือข่ายที่มุมขวาบนหน้าจอ
  2. เลือก “Wired Connection” หรือ “การเชื่อมต่อแบบใช้สาย” → “การตั้งค่า”
  3. ไปที่แท็บ “IPv4”
  4. เปลี่ยนโหมด “DHCP อัตโนมัติ” เป็น “กำหนดเอง (Manual)”
  5. กรอก IP address, Subnet, Gateway และ DNS
  6. กดบันทึกและนำไปใช้งาน

การเชื่อมต่อ Wi-Fi

Wi-Fi สามารถเชื่อมต่อได้อย่างง่ายดายตามขั้นตอนนี้

  1. คลิกไอคอนเครือข่าย
  2. จะแสดงรายการ Wi-Fi ที่มีให้เลือก
  3. เลือก SSID ที่ต้องการเชื่อมต่อ
  4. กรอกรหัสผ่านและเชื่อมต่อ

เชื่อมต่อเครือข่ายผ่าน CLI (Command Line)

หากใช้งานบนเซิร์ฟเวอร์หรือผ่าน SSH ต้องตั้งค่าเครือข่ายผ่าน CLI โดยใช้คำสั่ง nmcli เป็นหลัก

ตรวจสอบและเปิดใช้งานการเชื่อมต่อ LAN

nmcli device status
nmcli device connect enp0s3

ขั้นตอนเชื่อมต่อ Wi-Fi ผ่าน CLI

nmcli device wifi list
nmcli device wifi connect "ชื่อ SSID" password "รหัสผ่าน"

ตรวจสอบสถานะการเชื่อมต่อ

nmcli connection show --active

การเข้าใจทั้ง GUI และ CLI จะช่วยให้จัดการ Ubuntu ได้ทุกสถานการณ์

4. วิธีตั้งค่า IP แบบคงที่ (Static IP)

การตั้งค่า IP แบบคงที่ (Static IP) จำเป็นสำหรับเซิร์ฟเวอร์หรือการใช้งานเฉพาะทาง สามารถตั้งค่าได้ทั้งบน GUI (NetworkManager) และ CLI (Netplan)

ตั้งค่า IP คงที่ผ่าน GUI (NetworkManager)

บน Ubuntu Desktop สามารถตั้งค่าผ่านหน้าต่าง GUI ตามขั้นตอนนี้

ขั้นตอนการตั้งค่า

  1. คลิกไอคอนเครือข่ายที่มุมขวาบน
  2. เลือก “Settings” หรือ “การตั้งค่า” ของเครือข่ายที่เชื่อมต่อ
  3. ไปที่แท็บ “IPv4”
  4. เปลี่ยนโหมด “DHCP อัตโนมัติ” เป็น “Manual”
  5. กรอกข้อมูลดังต่อไปนี้ในช่อง “Address”
  • IP Address (เช่น 192.168.1.100)
  • Subnet Mask (เช่น 255.255.255.0)
  • Gateway (เช่น 192.168.1.1)
  1. ระบุ DNS (เช่น 8.8.8.8) หากต้องการ
  2. กด “Save” และรีเชื่อมต่อเครือข่าย

หลังบันทึก ให้ปิดและเชื่อมต่อเครือข่ายใหม่ หรือรีบูตเครื่องเพื่อให้ค่ามีผล

ตั้งค่า IP คงที่ผ่าน CLI (Netplan)

สำหรับ Ubuntu Server หรือระบบที่ไม่มี GUI ให้ใช้ Netplan โดยแก้ไขไฟล์ YAML แล้วสั่งใช้คำสั่ง

1. ตรวจสอบที่อยู่ของไฟล์ตั้งค่า

โดยทั่วไปจะอยู่ที่ใดที่หนึ่งในนี้:

  • /etc/netplan/00-installer-config.yaml
  • /etc/netplan/01-netcfg.yaml

ให้แก้ไขไฟล์ด้วยเนื้อหาตัวอย่างดังนี้

2. ตัวอย่างการตั้งค่าในไฟล์ YAML

network:
  version: 2
  renderer: networkd
  ethernets:
    enp0s3:
      dhcp4: no
      addresses:
        - 192.168.1.100/24
      gateway4: 192.168.1.1
      nameservers:
        addresses: [8.8.8.8, 1.1.1.1]

หมายเหตุ: enp0s3 อาจต่างกันในแต่ละระบบ ตรวจสอบด้วยคำสั่ง ip a

3. สั่งให้ค่ามีผล

sudo netplan apply

ตรวจสอบการตั้งค่าและแนวทางแก้ปัญหา

หลังตั้งค่าแล้ว สามารถตรวจสอบได้ด้วยคำสั่งนี้:

ip a

หากเชื่อมต่อเครือข่ายไม่ได้ ให้ใช้ ping เพื่อตรวจสอบการเชื่อมต่อ gateway หรือ DNS

ping 8.8.8.8

5. วิธีเปลี่ยน DNS Server บน Ubuntu

หากการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่เสถียรหรือการแก้ไขชื่อช้า การปรับตั้งค่า DNS Server จะช่วยได้ ในบางกรณี เช่น ภายในองค์กรหรือเพื่อความเป็นส่วนตัว อาจต้องระบุ DNS เฉพาะ

บทนี้อธิบายทั้งวิธีเปลี่ยน DNS ผ่าน GUI (NetworkManager) และ CLI (Netplan)

วิธีระบุ DNS Server ผ่าน GUI

สำหรับ Ubuntu Desktop ให้ดำเนินการดังนี้

ขั้นตอน:

  1. คลิกไอคอนเครือข่ายที่มุมขวาบน
  2. เปิด “การตั้งค่า” ของการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือ LAN
  3. เลือกแท็บ “IPv4” หรือ “IPv6”
  4. กรอก DNS address ที่ต้องการในช่อง “DNS” (เช่น 8.8.8.8, 1.1.1.1)
  5. ยกเลิกเครื่องหมาย “ใช้ DNS อัตโนมัติ” (หรือระบบจะปิดอัตโนมัติในบางเวอร์ชัน)
  6. บันทึกและเชื่อมต่อใหม่

หลังตั้งค่า สามารถตรวจสอบ DNS ได้ด้วยคำสั่ง:

dig www.google.com

หรือ

systemd-resolve --status

วิธีเปลี่ยน DNS ผ่าน CLI (Netplan)

ถ้าใช้ Netplan (เช่น บนเซิร์ฟเวอร์) ให้ระบุ DNS ในไฟล์ YAML

1. เปิดไฟล์ตั้งค่า

sudo nano /etc/netplan/01-netcfg.yaml

2. ตัวอย่างการตั้งค่า DNS

network:
  version: 2
  renderer: networkd
  ethernets:
    enp0s3:
      dhcp4: no
      addresses:
        - 192.168.1.100/24
      gateway4: 192.168.1.1
      nameservers:
        addresses:
          - 8.8.8.8
          - 1.1.1.1

3. สั่งให้ค่ามีผล

sudo netplan apply

4. ตรวจสอบสถานะ DNS

resolvectl status

หรือ

cat /etc/resolv.conf

หมายเหตุ: resolv.conf เป็น symbolic link และไม่แนะนำให้แก้ไขโดยตรง ควรตั้งค่าผ่าน Netplan หรือ NetworkManager

ความสัมพันธ์ระหว่าง systemd-resolved กับ DNS

ใน Ubuntu บริการ systemd-resolved จะจัดการ DNS และสร้างไฟล์ /etc/resolv.conf หากต้องการระบุ DNS เอง ให้ตรวจสอบการทำงานของ systemd-resolved ด้วย

สามารถรีสตาร์ตบริการนี้ได้ด้วย:

sudo systemctl restart systemd-resolved

6. วิธีตั้งค่า VPN บน Ubuntu

ในการใช้งาน Ubuntu อาจต้องตั้งค่า VPN เช่น เพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่ายภายในองค์กร ป้องกันข้อมูล หรือข้ามข้อจำกัดการเข้าถึง

Ubuntu รองรับ VPN หลายรูปแบบ ทั้ง OpenVPN และ L2TP/IPsec สามารถตั้งค่าได้ทั้งบน GUI และ CLI บทนี้จะแนะนำวิธีตั้งค่า VPN ที่พบบ่อย

วิธีตั้งค่า OpenVPN ผ่าน GUI (NetworkManager)

ติดตั้งแพ็กเกจที่จำเป็น

sudo apt update
sudo apt install network-manager-openvpn-gnome

หลังติดตั้ง แนะนำให้รีบูต

ขั้นตอนการตั้งค่า

  1. คลิกไอคอนเครือข่าย เลือก “VPN Settings” หรือ “เพิ่ม VPN”
  2. เลือก “OpenVPN” แล้วคลิก “Create”
  3. กรอกข้อมูลที่ได้จากผู้ให้บริการ VPN เช่น
  • ที่อยู่เซิร์ฟเวอร์
  • วิธีการยืนยันตัวตน (ชื่อผู้ใช้+รหัสผ่าน หรือใบรับรอง)
  • CA certificate, private key (ถ้าจำเป็น)
  1. ตั้งค่า Proxy หรือ DNS เพิ่มเติมถ้าต้องการ
  2. บันทึกและเชื่อมต่อ

เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จ จะเห็นไอคอนรูปกุญแจที่มุมขวาบน

วิธีตั้งค่า L2TP/IPsec ผ่าน GUI

ติดตั้งแพ็กเกจที่จำเป็น

sudo apt install network-manager-l2tp-gnome

หลังติดตั้งและรีบูต จะมีตัวเลือก L2TP ให้ใช้งาน

ขั้นตอนการตั้งค่า

  1. เพิ่ม VPN เลือก “L2TP”
  2. กรอกที่อยู่เซิร์ฟเวอร์, ชื่อผู้ใช้, รหัสผ่าน
  3. เปิด “IPsec settings” และกรอก pre-shared key
  4. ตรวจสอบค่า MPPE หรือ option อื่น ๆ ตามต้องการ
  5. บันทึกและทดสอบเชื่อมต่อ

ตั้งค่า OpenVPN ผ่าน CLI

หากไม่มี GUI สามารถเชื่อมต่อ OpenVPN ผ่าน CLI ได้

1. ติดตั้งแพ็กเกจ

sudo apt install openvpn

2. เชื่อมต่อด้วยคำสั่ง

หากมีไฟล์ .ovpn ให้ใช้คำสั่ง:

sudo openvpn --config your-config.ovpn

ถ้ามีการยืนยันตัวตน จะให้กรอกในเทอร์มินัล

การแก้ปัญหา VPN

ถ้าเชื่อมต่อ VPN ไม่ได้ ให้ตรวจสอบสิ่งเหล่านี้

  • ที่อยู่เซิร์ฟเวอร์และพอร์ตถูกต้องหรือไม่
  • การตั้งค่า firewall (ufw) หรือ ISP มีการบล็อคหรือไม่
  • ไฟล์ certificate อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่
  • เช็ค error log ด้วย journalctl -xe หรือ /var/log/syslog

ถ้าตั้งค่าผ่าน GUI สามารถดูสถานะผ่าน nmcli หรือ systemctl status NetworkManager ได้เช่นกัน

7. ปัญหาเครือข่ายที่พบบ่อยและวิธีแก้ไข

แม้ตั้งค่าเครือข่ายบน Ubuntu อย่างถูกต้องแล้ว ก็อาจพบปัญหาเช่น “เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้” หรือ “ไม่เห็น Wi-Fi” ได้ บทนี้จะแนะนำสาเหตุและแนวทางแก้ไขที่พบบ่อย

ตรวจสอบเบื้องต้นเมื่อเชื่อมต่อไม่ได้

กรณีเชื่อมต่อเครือข่ายไม่ได้ ให้ตรวจสอบปัญหาตามลำดับดังนี้

1. ตรวจสอบการเชื่อมต่ออุปกรณ์ (Hardware)

  • สาย LAN ต่อแน่นหรือไม่
  • อะแดปเตอร์ Wi-Fi เปิดอยู่หรือไม่ (สวิตช์ Wi-Fi เปิดหรือเปล่า)

ตรวจสอบสถานะอุปกรณ์ด้วยคำสั่ง:

nmcli device status

ถ้า Wi-Fi แสดงสถานะ “unavailable” หรือ “disconnected” อาจยังไม่ได้รับการตรวจพบโดยระบบ

2. ตรวจสอบว่าได้ IP address หรือยัง

ip a

หากอินเทอร์เฟซ (เช่น enp0s3 หรือ wlp2s0) ไม่มี IP แสดงว่า DHCP หรือการตั้งค่าผิดพลาด

3. ตรวจสอบการเข้าถึงเครือข่าย

ตรวจสอบการเชื่อมต่อ gateway:

ping 192.168.1.1

ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน DNS สาธารณะ:

ping 8.8.8.8

ถ้า ping IP ได้แต่ ping ชื่อโดเมนไม่ได้ แสดงว่าเป็นปัญหา DNS

Wi-Fi ไม่ถูกตรวจพบ หรือไม่แสดง SSID

ถ้า Wi-Fi ไม่ขึ้นในรายการ อาจเกิดจากไดรเวอร์

วิธีแก้ไข:

lshw -C network

ถ้าแสดงว่า “UNCLAIMED” ไดรเวอร์อาจยังไม่ได้ติดตั้ง

ตรวจสอบไดรเวอร์ด้วย:

sudo ubuntu-drivers devices

ถ้ามีไดรเวอร์แนะนำ ให้ติดตั้งแล้วรีบูต:

sudo apt install [ชื่อไดรเวอร์ที่แนะนำ]

ปัญหา DNS – ชื่อโดเมนไม่สามารถแก้ไขได้

  • ถ้า ping IP ได้ แต่ชื่อโดเมนไม่ได้ แสดงว่ามีปัญหา DNS
  • ตรวจสอบค่า DNS ปัจจุบันด้วย resolvectl status หรือ cat /etc/resolv.conf

แนวทางแก้ไข:

ตั้งค่า DNS ใหม่ใน Netplan หรือ NetworkManager เป็น Google (8.8.8.8) หรือ DNS อื่นๆ แล้วเชื่อมต่อใหม่

ตั้งค่าแล้วไม่แสดงผลทันที

  • ถ้าเปลี่ยนค่าใน GUI แต่ยังไม่ทำงาน ให้ลองปิด-เปิดการเชื่อมต่อ หรือรีบูต
  • ใน CLI ให้ใช้คำสั่งนี้:
sudo netplan apply

หรือรีสตาร์ต NetworkManager:

sudo systemctl restart NetworkManager

8. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตั้งค่าเครือข่าย Ubuntu (FAQ)

รวบรวมคำถามที่ถูกค้นหาบ่อยทั้งสำหรับมือใหม่และผู้มีประสบการณ์ พร้อมคำตอบสั้นๆ เข้าใจง่าย

Q1: Ubuntu ไม่แสดง Wi-Fi ต้องทำอย่างไร?

A1:
Wi-Fi อาจยังไม่ได้รับการตรวจพบ ให้ตรวจสอบสถานะอุปกรณ์ด้วย:

lshw -C network

ถ้าเห็น “UNCLAIMED” หรือ “DISABLED” ให้ตรวจสอบและติดตั้งไดรเวอร์:

  1. ดูรายชื่อไดรเวอร์ที่แนะนำ:
sudo ubuntu-drivers devices
  1. ติดตั้งไดรเวอร์ที่แนะนำ:
sudo apt install [ชื่อไดรเวอร์ที่แนะนำ]
  1. รีบูตและตรวจสอบใหม่

Q2: ตั้งค่า IP คงที่แล้ว แต่เชื่อมต่อเน็ตไม่ได้?

A2:
ตรวจสอบค่าเหล่านี้:

  • Gateway address ถูกต้องหรือไม่ (เช่น 192.168.1.1)
  • DNS ถูกต้องหรือไม่ (เช่น 8.8.8.8)
  • Subnet mask (/24) ตั้งถูกหรือเปล่า

ดูว่า YAML ผิดพลาดหรือไม่ได้ใช้ netplan apply หรือไม่

Q3: ตั้งค่าทุกอย่างผ่าน CLI ได้ไหม?

A3:
ได้ ใช้ nmcli (NetworkManager) หรือ Netplan ได้ เช่น

nmcli device wifi connect "SSID" password "password"

สำหรับ IP คงที่ให้แก้ YAML แล้วใช้:

sudo netplan apply

Q4: ตั้งค่าหรือแก้ไขแล้วต้องรีบูตไหม?

A4:
ไม่จำเป็นต้องรีบูตทุกครั้ง:

  • บน GUI ปิด-เปิดการเชื่อมต่อใหม่พอ
  • บน CLI ใช้ sudo netplan apply หรือ
sudo systemctl restart NetworkManager

Q5: จะรีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่ายทั้งหมดอย่างไร?

A5:
หากใช้ NetworkManager ให้ลบโปรไฟล์เดิม

nmcli connection show
nmcli connection delete <ชื่อการเชื่อมต่อ>

ถ้าใช้ Netplan ให้แก้ไขไฟล์ตั้งค่าเป็นค่าเริ่มต้น แล้ว netplan apply ใหม่

9. สรุป

การตั้งค่าเครือข่ายบน Ubuntu มีหลายวิธีขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แม้จะซับซ้อนในช่วงแรก แต่เนื้อหาในบทความนี้จะช่วยให้ทุกคน ตั้งแต่มือใหม่จนถึงผู้เชี่ยวชาญ สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจ

ประเด็นสำคัญในบทความนี้

  • เชื่อมต่อและตั้งค่าด้วย GUI (NetworkManager) อย่างง่ายดาย
  • ตั้งค่าอย่างยืดหยุ่นด้วย CLI (nmcli, Netplan) สำหรับเซิร์ฟเวอร์
  • วิธีตั้งค่า IP คงที่และ DNS โดยละเอียด
  • ขั้นตอนตั้งค่า VPN (OpenVPN, L2TP/IPsec)
  • ตัวอย่างการแก้ปัญหาเบื้องต้นและกรณีศึกษา
  • ตอบคำถามที่คนค้นหาบ่อย (FAQ)

เลือกวิธีที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ

วิธีตั้งค่าเครือข่ายที่เหมาะสมขึ้นกับว่าใช้ Ubuntu อย่างไร

ลักษณะการใช้งานวิธีที่แนะนำ
เดสก์ท็อปGUI (NetworkManager)
เซิร์ฟเวอร์ / คลาวด์CLI (Netplan)
รีโมตผ่าน SSHnmcli หรือแก้ YAML
เน้นความปลอดภัยVPN + ตั้งค่า DNS เอง

เครือข่ายที่เสถียรช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

Ubuntu มีความยืดหยุ่นสูงแต่การตั้งค่าผิดพลาดอาจทำให้ใช้งานไม่ได้ ใช้คู่มือฉบับนี้เพื่อลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความมั่นใจ

หากมีปัญหา ให้ย้อนกลับมาอ่านบทความนี้ซ้ำได้เสมอ เราได้รวบรวมเนื้อหาทั้งพื้นฐานจนถึงระดับสูงไว้ครบถ้วน

คู่มือ “การตั้งค่าเครือข่าย Ubuntu” จบสมบูรณ์แล้ว
หากต้องการต่อยอด ศึกษาเรื่อง network monitoring หรือ firewall เพิ่มเติมได้เช่นกัน