目次

1. บทนำ

ความสำคัญของการเปลี่ยนรหัสผ่านใน Ubuntu

Ubuntu เป็นลินุกซ์ดิสทริบิวชันแบบโอเพ่นซอร์สที่มีผู้ใช้จำนวนมากทั่วโลก ด้วยความง่ายในการใช้งานและฟีเจอร์ความปลอดภัยที่สูง ทำให้ได้รับความนิยมจากทั้งผู้ใช้ทั่วไป องค์กร และนักพัฒนา อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัย ผู้ใช้ควรเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากใช้รหัสผ่านเดิมเป็นเวลานาน อาจเสี่ยงต่อปัญหาด้านความปลอดภัยได้

รหัสผ่านเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมการเข้าถึงระบบ หากต้องการป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ควรตั้งรหัสผ่านให้แข็งแรงและเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ในกรณีที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ร่วมกับครอบครัว เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน หรือทำงานในระบบรีโมทเวิร์ก การจัดการรหัสผ่านก็ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น

บทความนี้เหมาะกับใคร

คู่มือนี้เหมาะสำหรับผู้ใช้ Ubuntu ระดับเริ่มต้น หรือผู้ที่ใช้ Ubuntu ในชีวิตประจำวันแต่รู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีประโยชน์สำหรับเจ้าหน้าที่ IT และผู้ดูแลระบบ โดยมีคำอธิบายทีละขั้นตอนเพื่อลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย พร้อมตัวอย่างการพิมพ์คำสั่งและวิธีการผ่าน GUI ที่เข้าใจง่าย แม้แต่ผู้เริ่มต้นก็สามารถทำตามได้

年収訴求

2. วิธีเปลี่ยนรหัสผ่านใน Ubuntu (พื้นฐาน)

โดยทั่วไป การเปลี่ยนรหัสผ่านใน Ubuntu มักจะทำผ่านอินเทอร์เฟซบรรทัดคำสั่ง (CLI) วิธีนี้มีประสิทธิภาพสูงและทำได้ง่าย แม้แต่ผู้เริ่มต้นก็สามารถใช้งานได้อย่างแพร่หลาย ที่นี่จะแนะนำขั้นตอนพื้นฐานของการเปลี่ยนรหัสผ่าน

2.1 วิธีเปลี่ยนรหัสผ่านของตัวเอง

วิธีพื้นฐานที่สุดในการเปลี่ยนรหัสผ่านคือใช้คำสั่ง passwd เมื่อรันคำสั่งนี้ จะสามารถเปลี่ยนรหัสผ่านของบัญชีผู้ใช้ตนเองได้

ขั้นตอน:

  1. เปิดเทอร์มินัล
    บนเดสก์ท็อป Ubuntu ให้เปิดเทอร์มินัล สามารถกด Ctrl + Alt + T เพื่อเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว
  2. รันคำสั่ง passwd
    พิมพ์คำสั่งด้านล่างนี้ลงไป
   passwd

คำสั่งนี้ใช้เพื่อเปลี่ยนรหัสผ่านของผู้ใช้ที่กำลังล็อกอินอยู่ในขณะนั้น

  1. กรอกรหัสผ่านปัจจุบัน
    ระบบจะให้คุณป้อนรหัสผ่านเดิม กรอกรหัสผ่านที่ถูกต้องแล้วกด Enter
  2. ตั้งรหัสผ่านใหม่
    คุณต้องป้อนรหัสผ่านใหม่สองครั้ง เริ่มจากป้อนรหัสผ่านใหม่ จากนั้นป้อนอีกครั้งเพื่อยืนยัน เมื่อเสร็จแล้ว รหัสผ่านของคุณจะถูกเปลี่ยน

ข้อความยืนยันการเปลี่ยนรหัสผ่านสำเร็จ

เมื่อเปลี่ยนรหัสผ่านสำเร็จ จะเห็นข้อความดังนี้

passwd: password updated successfully

ตอนนี้รหัสผ่านของคุณได้รับการอัปเดตเรียบร้อยแล้ว

2.2 วิธีเปลี่ยนรหัสผ่านของผู้ใช้อื่น

หากคุณเป็นผู้ดูแลระบบและต้องการเปลี่ยนรหัสผ่านให้กับผู้ใช้อื่น ต้องใช้คำสั่ง sudo วิธีนี้ต้องใช้สิทธิ์ผู้ดูแลระบบ

ขั้นตอน:

  1. รันคำสั่ง sudo passwd [ชื่อผู้ใช้]
    ในฐานะผู้ดูแลระบบ ให้ใช้คำสั่งนี้เพื่อเปลี่ยนรหัสผ่านของผู้ใช้อื่น
   sudo passwd [ชื่อผู้ใช้]

ตัวอย่างเช่น หากต้องการเปลี่ยนรหัสผ่านของผู้ใช้ชื่อ john ให้พิมพ์ดังนี้

   sudo passwd john
  1. กรอกรหัสผ่านผู้ดูแลระบบ
    เมื่อรันคำสั่ง ระบบจะขอให้คุณป้อนรหัสผ่านผู้ดูแลระบบ กรอกรหัสผ่านที่ถูกต้องแล้วกด Enter
  2. ตั้งรหัสผ่านใหม่
    ป้อนรหัสผ่านใหม่สำหรับผู้ใช้อื่น แล้วป้อนอีกครั้งเพื่อยืนยัน รหัสผ่านของผู้ใช้นั้นจะถูกเปลี่ยน

วิธีนี้ช่วยให้ผู้ดูแลระบบรีเซ็ตรหัสผ่านให้กับผู้ใช้ที่ไม่สามารถเปลี่ยนรหัสผ่านเองได้

3. วิธีเปลี่ยนรหัสผ่านผ่าน GUI

ใน Ubuntu คุณสามารถเปลี่ยนรหัสผ่านผ่านส่วนติดต่อผู้ใช้แบบกราฟิก (GUI) ได้โดยไม่ต้องใช้คำสั่ง เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ถนัด CLI ต่อไปนี้คือขั้นตอนการเปลี่ยนรหัสผ่านผ่าน GUI แบบง่ายๆ

3.1 เปิดหน้าต่างตั้งค่า

  1. เข้าถึงเมนู “การตั้งค่า”
    ก่อนอื่น ไปที่หน้าจอ “กิจกรรม” ของ Ubuntu คลิกปุ่ม “กิจกรรม” ที่มุมซ้ายบน แล้วพิมพ์ “ผู้ใช้” ในแถบค้นหา จากผลการค้นหา ให้คลิก “ผู้ใช้” เพื่อเปิดแผงการตั้งค่า
  2. เปิดแผงตั้งค่า “ผู้ใช้”
    เมื่อเข้าสู่แผง “ผู้ใช้” จะเห็นข้อมูลผู้ใช้ในเมนูด้านซ้าย สามารถใช้แผงนี้เพื่อจัดการรหัสผ่าน

3.2 ขั้นตอนการเปลี่ยนรหัสผ่าน

  1. เลือกช่อง “รหัสผ่าน”
    หากต้องการเปลี่ยนรหัสผ่านของผู้ใช้ปัจจุบัน ให้คลิกที่ช่องรหัสผ่านที่เป็นสัญลักษณ์จุด (เช่น ●●●●●) หากต้องการเปลี่ยนรหัสผ่านของผู้ใช้อื่น ต้องคลิกปุ่ม “ปลดล็อก” เพื่อเปิดใช้สิทธิ์ผู้ดูแลระบบก่อน
  2. กรอกรหัสผ่านปัจจุบัน
    ก่อนเปลี่ยนรหัสผ่าน ต้องป้อนรหัสผ่านเดิม แล้วคลิก “ยืนยัน”
  3. กรอกรหัสผ่านใหม่
    จากนั้นจะมีหน้าจอให้ป้อนรหัสผ่านใหม่ ให้ป้อนรหัสผ่านใหม่และป้อนอีกครั้งเพื่อยืนยัน แนะนำให้ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง
  4. เสร็จสิ้นการเปลี่ยนรหัสผ่าน
    หลังจากป้อนรหัสผ่านใหม่ครบแล้ว ให้คลิกปุ่ม “เปลี่ยน” เพื่ออัปเดตรหัสผ่าน ระบบจะใช้รหัสผ่านใหม่นี้ในครั้งถัดไปที่ล็อกอิน

3.3 วิธีเปลี่ยนรหัสผ่านของผู้ใช้อื่นผ่าน GUI

หากคุณเป็นผู้ดูแลระบบและต้องการเปลี่ยนรหัสผ่านให้กับผู้ใช้อื่น ก่อนอื่นต้องคลิกปุ่ม “ปลดล็อก” ที่หน้าจอ “ผู้ใช้” แล้วป้อนรหัสผ่านผู้ดูแลระบบ หลังจากนั้นเข้าถึงช่องรหัสผ่านของผู้ใช้อื่นและตั้งรหัสผ่านใหม่ด้วยวิธีเดียวกัน

3.4 ข้อดีและข้อควรระวังของ GUI

การเปลี่ยนรหัสผ่านผ่าน GUI เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ชำนาญ CLI เนื่องจากใช้งานได้ง่ายและมีโอกาสผิดพลาดน้อย สามารถทำงานได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพิมพ์คำสั่งที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบสามารถเปลี่ยนรหัสผ่านของผู้อื่นได้ ดังนั้นควรระวังเรื่องความปลอดภัย

4. วิธีแก้ไขเมื่อจำรหัสผ่านไม่ได้

หากคุณลืมรหัสผ่านใน Ubuntu ปกติจะไม่สามารถล็อกอินได้ แต่สามารถรีเซ็ตรหัสผ่านผ่านเมนู GRUB หรือโหมดกู้คืนได้ ส่วนนี้จะแนะนำขั้นตอนการรีเซ็ตรหัสผ่านหากลืมรหัสผ่าน

4.1 วิธีรีเซ็ตรหัสผ่านด้วย GRUB

ถ้าลืมรหัสผ่าน วิธีที่ใช้กันบ่อยคือเข้าสู่โหมดกู้คืนผ่าน GRUB (Grand Unified Bootloader) และรีเซ็ตรหัสผ่านในฐานะ root

ขั้นตอน:

  1. แสดงเมนู GRUB
    รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ แล้วกดปุ่ม “Shift” ค้างไว้ขณะบูตเพื่อแสดงเมนู GRUB หากไม่แสดง หรือกดไม่ทัน ให้ลองใหม่อีกครั้ง
  2. เลือกโหมดกู้คืน
    เมื่อเห็นเมนู GRUB ให้เลือก “Advanced options for Ubuntu” จากนั้นเลือกโหมดกู้คืน (ตัวอย่าง: “Ubuntu, with Linux 5.x.x-xx-generic (recovery mode)”)
  3. เข้าสู่ root shell
    เมื่อเข้าสู่โหมดกู้คืน จะมีตัวเลือกให้เลือก ให้เลือก “root” เพื่อเปิด shell ด้วยสิทธิ์ root
  4. ตั้งค่าสิทธิ์ในการเขียนให้กับไฟล์ระบบ
    โดยปกติแล้ว ในโหมดกู้คืน ไฟล์ระบบจะเป็นแบบอ่านอย่างเดียว ให้ใช้คำสั่งด้านล่างเพื่อเปิดสิทธิ์เขียน
   mount -o remount,rw /
  1. รีเซ็ตรหัสผ่าน
    ใน shell ของ root ให้ใช้คำสั่งด้านล่าง พร้อมระบุชื่อผู้ใช้ที่ต้องการรีเซ็ตรหัสผ่าน
   passwd [ชื่อผู้ใช้]

ตัวอย่าง หากต้องการรีเซ็ตรหัสผ่านของผู้ใช้ “john” ให้พิมพ์ดังนี้

   passwd john
  1. ป้อนรหัสผ่านใหม่
    ระบบจะให้ป้อนรหัสผ่านใหม่สองครั้ง เมื่อเสร็จแล้วรหัสผ่านจะถูกรีเซ็ต
  2. รีสตาร์ทระบบ
    หลังจากรีเซ็ตรหัสผ่านเสร็จ ให้ใช้คำสั่งด้านล่างเพื่อรีสตาร์ทระบบ
   reboot

 

5. แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการรหัสผ่าน

การจัดการรหัสผ่านใน Ubuntu มีความสำคัญมากเพื่อรักษาความปลอดภัยของระบบ หากใช้รหัสผ่านอย่างไม่เหมาะสม อาจทำให้ระบบทั้งระบบมีความเสี่ยงได้ ในส่วนนี้จะแนะนำวิธีเลือกและดูแลรหัสผ่านให้ปลอดภัยในชีวิตประจำวัน

5.1 การเลือกรหัสผ่านที่ปลอดภัย

ความแข็งแรงของรหัสผ่านส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัย หากใช้รหัสผ่านที่เดาง่ายหรือสั้นเกินไป จะเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ควรคำนึงถึงประเด็นต่อไปนี้ในการตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัย

ความยาวและความซับซ้อน

รหัสผ่านที่แข็งแรงควรมีทั้งความยาวและความซับซ้อน โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ 8 ตัวอักษรขึ้นไป แต่หากใช้ 12 ตัวอักษรขึ้นไปจะปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ควรผสมตัวอักษรให้หลากหลาย เช่น:

  • ตัวอักษรใหญ่และตัวอักษรเล็ก
  • ตัวเลข
  • สัญลักษณ์ (เช่น @, #, &)

ตัวอย่าง: Pa$$w0rd!2024 หากใช้ตัวอักษรที่หลากหลายและซับซ้อนจะทำให้รหัสผ่านแข็งแรงขึ้น

การป้องกันการโจมตีด้วยพจนานุกรม

รหัสผ่านที่เป็นคำในพจนานุกรมสามารถถูกเดาได้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงการใช้คำเหล่านั้น เพราะการโจมตีด้วยพจนานุกรมจะสุ่มเดาคำทั่วไปในพจนานุกรม เช่น password123 หรือ letmein จึงไม่ควรใช้รหัสผ่านเหล่านี้

การใช้ Passphrase

Passphrase คือการนำคำหลายๆ คำมาต่อกันเป็นรหัสผ่าน ควรใช้วลีที่ไม่มีความหมายหรือเป็นการสุ่ม จะช่วยให้รหัสผ่านแข็งแรงและเดายาก

ตัวอย่าง: DogRunsInCloudySky2024! เป็น passphrase ที่จดจำง่ายแต่ปลอดภัย

5.2 การใช้ตัวจัดการรหัสผ่าน

แม้ว่าจะตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรงได้ แต่หากต้องจำรหัสผ่านหลายชุดสำหรับแต่ละบริการก็อาจเป็นเรื่องยาก ดังนั้นควรใช้โปรแกรมจัดการรหัสผ่านเพื่อจัดเก็บและจัดการรหัสผ่านอย่างปลอดภัย

ตัวจัดการรหัสผ่านคืออะไร

ตัวจัดการรหัสผ่านเป็นเครื่องมือที่ช่วยเก็บรหัสผ่านทั้งหมดไว้ในที่เดียว โดยมีระบบเข้ารหัสอย่างปลอดภัย เพียงจำรหัสผ่านหลัก (Master Password) แค่ชุดเดียว ตัวจัดการรหัสผ่านจะช่วยกรอกรหัสผ่านให้โดยอัตโนมัติ และสามารถสร้างรหัสผ่านที่แข็งแรงแบบสุ่มได้ด้วย

ตัวจัดการรหัสผ่านที่แนะนำ

  • KeePass: เป็นตัวจัดการรหัสผ่านแบบโอเพ่นซอร์ส ใช้งานฟรี และเข้ารหัสฐานข้อมูลอย่างปลอดภัย
  • Bitwarden: เป็นโอเพ่นซอร์สเช่นกัน มีฟีเจอร์ซิงก์กับคลาวด์ เหมาะสำหรับจัดการรหัสผ่านข้ามหลายอุปกรณ์

5.3 การใช้

年収訴求