1. พื้นฐานความปลอดภัยบน Ubuntu
การอัปเดตแพ็คเกจให้ทันสมัย
Ubuntu เป็นโอเพนซอร์สที่มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่และการแก้ไขข้อผิดพลาดอยู่เสมอ การอัปเดตแพ็คเกจจึงเป็นมาตรการขั้นพื้นฐานและสำคัญที่สุดสำหรับความปลอดภัย หากใช้ซอฟต์แวร์ที่มีช่องโหว่ ระบบจะเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากภายนอก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องดูแลให้ระบบทันสมัยอยู่เสมอ
ใน Ubuntu เราสามารถใช้ระบบจัดการแพ็คเกจ “APT” เพื่ออัปเดตระบบให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะอัปเดตด้านความปลอดภัย สามารถตั้งค่าให้ติดตั้งโดยอัตโนมัติได้อีกด้วย หากมีอัปเดตด้านความปลอดภัย ระบบจะแจ้งเตือนในสภาพแวดล้อมเดสก์ท็อป ซึ่งควรดำเนินการติดตั้งตามคำแนะนำ สำหรับคำสั่งในเทอร์มินัลมีดังนี้
sudo apt update && sudo apt upgrade -y
การจัดการรหัสผ่านและการปิดใช้งานบัญชี root
ใน Ubuntu เพื่อเสริมความปลอดภัย บัญชี root จะถูกปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้น ซึ่งช่วยลดโอกาสที่ผู้โจมตีภายนอกจะเข้าถึงระบบได้โดยตรง ผู้ใช้ทั่วไปจะต้องใช้คำสั่ง sudo เพื่อรับสิทธิ์ผู้ดูแลระบบชั่วคราวเวลาต้องดำเนินการสำคัญต่าง ๆ
สำหรับการจัดการรหัสผ่าน ควรตั้งรหัสผ่านให้รัดกุม หลีกเลี่ยงรหัสที่ง่ายหรือคาดเดาได้ง่าย ควรตั้งรหัสผ่านที่มีทั้งตัวพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก ตัวเลข และอักขระพิเศษ นอกจากนี้ การเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำก็ช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้อีกระดับ
การตั้งค่าไฟร์วอลล์
ไฟร์วอลล์เป็นฟีเจอร์สำคัญในการป้องกันการเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต ใน Ubuntu มี UFW (Uncomplicated Firewall) ให้ใช้งาน สามารถตั้งค่าได้อย่างง่ายดาย UFW จะอนุญาตเฉพาะการสื่อสารที่ได้รับอนุญาต ส่วนอื่น ๆ จะถูกบล็อก ช่วยปกป้องระบบจากความเสี่ยง คำสั่งเปิดใช้งาน UFW มีดังนี้
sudo ufw enable
หากต้องการอนุญาตเฉพาะพอร์ตที่กำหนด สามารถตั้งค่าได้แบบนี้
sudo ufw allow 22/tcp
ดังนั้น การอัปเดตแพ็คเกจ การจัดการรหัสผ่าน และการตั้งค่าไฟร์วอลล์ เป็น 3 ปัจจัยพื้นฐานในการเสริมความปลอดภัยให้ Ubuntu

2. การป้องกันไวรัสและการติดตั้งซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย
ความเสี่ยงของไวรัสใน Ubuntu
ระบบ Linux โดยเฉพาะ Ubuntu มีความเสี่ยงจากไวรัสน้อยกว่า Windows หรือ MacOS แต่ “มีไวรัสน้อยจึงปลอดภัย” เป็นความเข้าใจผิด ในความเป็นจริง Linux ก็สามารถตกเป็นเป้าหมายของมัลแวร์หรือแรนซัมแวร์ได้เช่นกัน โดยเฉพาะเครื่องที่ใช้เป็นเซิร์ฟเวอร์หรือเชื่อมต่อกับเครือข่าย ความเสี่ยงจะยิ่งเพิ่มขึ้น
การเลือกซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย
การติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสยังคงเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ใช้ Linux Sophos และ ClamAV เป็นซอฟต์แวร์ที่ได้รับความนิยมในการตรวจจับไวรัสและมัลแวร์ สำหรับตัวอย่างขั้นตอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ความปลอดภัย มีดังนี้
- ตัวอย่างการติดตั้ง Sophos:
- ดาวน์โหลดโปรแกรมจากเว็บไซต์ทางการ แล้วรันคำสั่งต่อไปนี้ในเทอร์มินัล
sudo ./sophos-av/install.sh
- ตัวอย่างการติดตั้ง ClamAV:
- ClamAV สามารถติดตั้งได้ผ่าน APT
sudo apt install clamav
หลังการติดตั้ง ควรสแกนไวรัสเป็นประจำเพื่อค้นหาภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น เช่น การสแกนทั้งระบบใช้คำสั่งนี้
sudo clamscan -r /
ความสำคัญของการสแกนไวรัส
การสแกนไวรัสเป็นประจำจะช่วยให้สามารถตรวจพบภัยคุกคามได้แต่เนิ่น ๆ โดยเฉพาะหากเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ควรอัปเดตซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยและฐานข้อมูลไวรัสให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ๆ
3. มาตรการความปลอดภัยขั้นสูงสำหรับองค์กร
ฟีเจอร์ Livepatch
ในสภาพแวดล้อมองค์กรหรือธุรกิจ ความเสถียรและความปลอดภัยของระบบเป็นสิ่งสำคัญ ฟีเจอร์ “Livepatch” ที่ Ubuntu ให้บริการ จะช่วยให้สามารถอัปเดตแพตช์ด้านความปลอดภัยโดยไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่อง ทำให้แก้ไขช่องโหว่ได้โดยไม่ต้องหยุดระบบ ลดเวลา downtime ให้น้อยที่สุดและยังคงความปลอดภัยสูงสุด
LTS และการอัปเดตความปลอดภัยระยะยาว
Ubuntu รุ่น LTS (Long Term Support) มีการสนับสนุนด้านความปลอดภัยนานสูงสุดถึง 10 ปี เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการความต่อเนื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ช่วยลดต้นทุนการดูแลรักษาในระยะยาว และสามารถติดตั้งแพตช์ด้านความปลอดภัยได้อย่างง่ายดายแม้ใช้กับเซิร์ฟเวอร์หรืออุปกรณ์เครือข่ายที่ต้องทำงานต่อเนื่อง
ความปลอดภัยในระบบคลาวด์
ปัจจุบันโครงสร้างพื้นฐานไอทีองค์กรมีแนวโน้มไปสู่ระบบคลาวด์ Ubuntu จึงรองรับเทคโนโลยีนี้ โดยใช้คอนเทนเนอร์และเวอร์ชวลไลเซชั่นช่วยเสริมความปลอดภัย โดยเฉพาะ OpenStack และ Kubernetes จาก Canonical ช่วยบริหารจัดการความปลอดภัยบนคลาวด์ได้อย่างยืดหยุ่น

4. ฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่ล่าสุดใน Ubuntu
ฟีเจอร์ใหม่ใน Ubuntu 24.04 LTS
Ubuntu 24.04 LTS ได้เพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยใหม่จำนวนมาก โดย การปิดใช้งาน TLS 1.0 และ 1.1 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ช่วยป้องกันการโจมตีแบบ downgrade และ เพิ่มความปลอดภัยของการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต อย่างมาก
การเสริมความปลอดภัยของเคอร์เนล
ใน Ubuntu 24.04 LTS ได้เพิ่มความปลอดภัยของเคอร์เนล โดยเฉพาะฟีเจอร์ “Shadow Stack” สำหรับซีพียู Intel รุ่นใหม่ ที่ช่วยป้องกันการโจมตีแบบ ROP (Return Oriented Programming) Shadow Stack จะปกป้อง return address ของ stack ในระดับฮาร์ดแวร์ เสริมความปลอดภัยในระดับเคอร์เนล
5. อนาคตของโอเพนซอร์สและความปลอดภัยทางไซเบอร์
ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในการรวมระบบ
ในวงการไซเบอร์ซีเคียวริตี้ มักจะมีคำกล่าวว่า “1 + 1 ไม่เท่ากับ 2” หมายถึง แม้แต่ระบบที่ปลอดภัยแต่ละระบบ เมื่อนำมารวมกันอาจทำให้ทั้งระบบไม่ปลอดภัย ตัวอย่างเช่น การผสานระบบใหม่เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานเดิม อาจเกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่คาดไม่ถึง
ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สก็เช่นกัน เมื่อผสมผสานโครงการต่าง ๆ เข้าด้วยกัน อาจเกิดช่องโหว่แฝงได้ Canonical จึงให้ความสำคัญกับ ความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐาน เลเยอร์ของ OS และเทคโนโลยีคอนเทนเนอร์
การดำเนินงานของ Canonical
Canonical ซึ่งเป็นผู้พัฒนา Ubuntu ให้ความสำคัญกับโซลูชันด้านความปลอดภัยแบบองค์รวม ตั้งแต่ bare metal ไปจนถึง cloud infrastructure รวมถึงฟีเจอร์ที่ช่วยลดช่องโหว่เมื่อต้องใช้งานร่วมกับระบบอื่น ๆ
เช่น การมีเครื่องมือสำหรับดูแลคอนเทนเนอร์และเวอร์ชวลแมชชีนอย่างปลอดภัย สำหรับองค์กรมีบริการ “Juju” และ “MAAS” ที่ช่วยเสริมความปลอดภัยและบริหารจัดการระบบได้อย่างมั่นใจ ทำให้องค์กรสามารถขยายการใช้งานโอเพนซอร์สพร้อมรับมือกับความเสี่ยงทางไซเบอร์ได้
อนาคตของความปลอดภัยทางไซเบอร์
สิ่งสำคัญในอนาคตของความปลอดภัยโอเพนซอร์สคือ การเพิ่มชั้นการป้องกัน ไม่เพียงแต่ป้องกันการโจมตีจากภายนอก แต่ต้องสามารถตรวจจับและรับมือกับเหตุการณ์ผิดปกติภายในระบบได้ด้วย ในยุคของคลาวด์และระบบกระจายตัว ความปลอดภัยจะยิ่งทวีความสำคัญ
Canonical จึงมุ่งเน้น เสริมความปลอดภัยให้โครงสร้างพื้นฐาน และ สร้างการป้องกันแบบหลายชั้น พร้อมใช้จุดแข็งของความโปร่งใสในโอเพนซอร์ส เพื่อให้ผู้ใช้และองค์กรมั่นใจในโซลูชันด้านความปลอดภัยสำหรับอนาคต