1. บทนำ
สำหรับผู้ใช้ Ubuntu การจัดการซอฟต์แวร์เป็นส่วนหนึ่งของงานประจำวัน และด้วย APT (Advanced Package Tool) การติดตั้ง อัปเดต และลบซอฟต์แวร์จึงทำได้ง่าย บางท่านอาจคิดว่า “APT ดูยากจังเลยนะ…” แต่ในบทความนี้ เราจะอธิบายทีละขั้นตอนอย่างเข้าใจง่าย
เมื่ออ่านบทความนี้ คุณจะสามารถเชี่ยวชาญการจัดการซอฟต์แวร์ด้วยคำสั่ง APT ได้ในทันที!
2. APT คืออะไร?
APT เป็นเครื่องมือจัดการแพ็คเกจที่ใช้ในระบบพื้นฐาน Debian (เช่น Ubuntu) ซึ่งได้รวมฟังก์ชันของ apt-get
และ apt-cache
แบบเดิมเข้าด้วยกัน ทำให้การทำงานง่ายขึ้นและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น เมื่อติดตั้งแพ็คเกจ ในอดีตต้องพิมพ์ apt-get install
แต่ปัจจุบันสามารถติดตั้งได้ด้วยเพียง apt install
เท่านั้น ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ Ubuntu สามารถจัดการระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
จุดสำคัญ: APT ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อ “ทำให้การจัดการแพ็คเกจง่ายขึ้น” หากคุณใช้งานเป็น คุณก็จะเป็นส่วนหนึ่งของผู้เชี่ยวชาญ Ubuntu
3. อัปเดตและอัปเกรดแพ็คเกจด้วย APT
การรักษาความเสถียรและความปลอดภัยของระบบจำเป็นต้องมีการอัปเดตแพ็คเกจอย่างสม่ำเสมอ ในส่วนนี้ เราจะแนะนำขั้นตอนในการอัปเดตรายการแพ็คเกจและอัปเกรดแพ็คเกจที่ติดตั้งแล้วให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดโดยใช้ APT
การอัปเดตรายการแพ็คเกจ (apt update
)
คำสั่ง sudo apt update
เป็นการทำงานพื้นฐานเพื่ออัปเดตรายการแพ็คเกจให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ ด้วยคำสั่งนี้ ระบบจะรับรู้ได้แม้มีการเพิ่มซอฟต์แวร์ใหม่ใน repository
sudo apt update
การอัปเกรดแพ็คเกจ (apt upgrade
)
ถัดไป ใช้ sudo apt upgrade
เพื่ออัปเกรดแพ็คเกจที่ติดตั้งแล้วทั้งหมดให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด ด้วยคำสั่งด้านล่าง คุณสามารถดำเนินการทั้งสองอย่างได้ในครั้งเดียว
sudo apt update && sudo apt upgrade -y
ข้อคิดขำๆ: คิดเสียว่า Ubuntu กำลัง “ขอร้อง” ให้คุณอัปเดตระบบ และทำเป็นประจำนะครับ
4. การติดตั้งแพ็คเกจใหม่ด้วย APT
หากต้องการติดตั้งซอฟต์แวร์ใหม่ ให้ใช้คำสั่ง apt install
ตัวอย่างเช่น หากต้องการติดตั้งเครื่องเล่นมีเดีย “mplayer” ให้พิมพ์ดังนี้
sudo apt install mplayer
การติดตั้งหลายแพ็คเกจพร้อมกัน
หากต้องการติดตั้งหลายแพ็คเกจพร้อมกัน ให้คั่นด้วยช่องว่างดังนี้
sudo apt install package1 package2 package3
การหลีกเลี่ยงการอัปเกรดแพ็คเกจโดยอัตโนมัติ
หากต้องการติดตั้งแพ็คเกจเฉพาะโดยไม่ต้องการให้แพ็คเกจที่มีอยู่ได้รับการอัปเกรด ให้ใช้ตัวเลือก --no-upgrade
sudo apt install package_name --no-upgrade
เคล็ดลับ: แม้ชื่อแพ็คเกจจะไม่สมบูรณ์ คุณสามารถพิมพ์เพียงสองสามตัวอักษรแล้วกดปุ่ม Tab เพื่อแสดงตัวเลือกการเติมข้อความอัตโนมัติได้
5. การจัดการแพ็คเกจที่ติดตั้งแล้ว
APT ไม่เพียงแค่ติดตั้ง แต่ยังช่วยให้ลบแพ็คเกจที่ไม่ต้องการได้อย่างง่ายดาย
การลบแพ็คเกจ (apt remove
)
หากต้องการลบแพ็คเกจที่ติดตั้งแล้ว ให้ใช้คำสั่งต่อไปนี้
sudo apt remove package_name
การลบแพ็คเกจอย่างสมบูรณ์ (apt purge
)
หากต้องการลบอย่างสมบูรณ์รวมถึงไฟล์กำหนดค่า ให้ใช้คำสั่ง apt purge
sudo apt purge package_name
การลบแพ็คเกจที่ไม่จำเป็น (apt autoremove
)
หากต้องการลบแพ็คเกจที่ติดตั้งตามความสัมพันธ์ (dependency) แต่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ให้ใช้คำสั่งต่อไปนี้
sudo apt autoremove
ข้อควรจำ: การรัน apt autoremove
จะช่วยล้างแพ็คเกจที่ไม่จำเป็นออกจากระบบ และประหยัดพื้นที่ดิสก์ได้
6. การค้นหาและรับข้อมูลแพ็คเกจ
ด้วย APT คุณสามารถค้นหาแพ็คเกจซอฟต์แวร์และแสดงข้อมูลรายละเอียดได้
การค้นหาแพ็คเกจ (apt search
)
หากต้องการค้นหาแพ็คเกจ ให้ใช้คำสั่งต่อไปนี้
sudo apt search package_name
การแสดงข้อมูลรายละเอียดแพ็คเกจ (apt show
)
หากต้องการตรวจสอบข้อมูล เช่น ความสัมพันธ์ของแพ็คเกจ หรือขนาดไฟล์ที่ติดตั้ง ให้ใช้คำสั่ง apt show
sudo apt show package_name

7. การจัดการรายการแพ็คเกจและแหล่งที่มา (Sources)
APT ช่วยให้แสดงรายการแพ็คเกจและแก้ไขแหล่งที่มา (sources) ได้อย่างง่ายดาย
การแสดงรายการแพ็คเกจที่ติดตั้งแล้ว (apt list --installed
)
หากต้องการแสดงรายการแพ็คเกจที่ติดตั้งอยู่ในปัจจุบัน ให้ใช้คำสั่งต่อไปนี้
sudo apt list --installed
การแสดงรายการแพ็คเกจที่สามารถอัปเกรดได้ (apt list --upgradeable
)
หากต้องการแสดงรายการแพ็คเกจที่สามารถอัปเกรดได้ ให้ใช้คำสั่งต่อไปนี้
sudo apt list --upgradeable
การแก้ไขแหล่งแพ็คเกจ (apt edit-sources
)
หากต้องการเพิ่ม repository ใหม่ หรือแก้ไขรายการแหล่งที่มา (source list) สามารถแก้ไข sources ได้โดยใช้คำสั่งต่อไปนี้
sudo apt edit-sources
8. แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการใช้ APT
แนะนำแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการใช้ APT
การอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อรักษาระบบให้เป็นปัจจุบัน แนะนำให้รัน apt update && apt upgrade
อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง patch ความปลอดภัยนั้นสำคัญมาก
การจัดระเบียบแพ็คเกจที่ไม่จำเป็น
เพื่อเพิ่มพื้นที่ดิสก์ ให้รัน apt autoremove
เป็นประจำเพื่อจัดระเบียบแพ็คเกจที่ไม่จำเป็น
9. สรุป
APT เป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการจัดการซอฟต์แวร์ในระบบพื้นฐาน Ubuntu และ Debian เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การใช้คำสั่งที่แนะนำในบทความนี้จะช่วยให้คุณรักษาระบบให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ ลบแพ็คเกจที่ไม่จำเป็น และติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
เปิด Terminal ของคุณและลองใช้คำสั่ง APT ได้เลย! หากมีคำถามใดๆ สามารถแจ้งในช่องความคิดเห็นได้เลย คุณเองก็อาจเป็นผู้เชี่ยวชาญ APT ได้!