การติดตั้ง YUM บน Ubuntu: คู่มือสำหรับจัดการแพ็กเกจ RPM และเปรียบเทียบกับ APT

目次

1. บทนำ

สำหรับผู้ใช้ Ubuntu ระบบจัดการแพ็กเกจถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก โดยทั่วไปใน Ubuntu จะใช้ APT เป็นระบบจัดการแพ็กเกจหลัก แต่ก็อาจมีผู้ใช้บางรายที่ต้องการใช้ YUM ซึ่งนิยมใช้ในระบบตระกูล Red Hat เช่น CentOS หรือ RHEL ในบทความนี้ เราจะอธิบายเหตุผลและวิธีการติดตั้ง YUM บน Ubuntu รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้ APT แทน YUM ด้วย

Ubuntu เป็นดิสทริบิวชันที่อยู่ในสาย Debian และไม่รองรับแพ็กเกจ RPM โดยตรง อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี อาจจำเป็นต้องใช้แพ็กเกจ RPM บทความนี้จะช่วยให้เข้าใจความแตกต่างระหว่าง YUM และ APT พร้อมทั้งอธิบายวิธีการใช้ YUM บน Ubuntu อย่างเหมาะสม

2. ความแตกต่างระหว่าง Ubuntu กับ YUM

Ubuntu เป็นดิสทริบิวชันที่พัฒนาบนพื้นฐานของ Debian และใช้ APT (Advanced Package Tool) เป็นระบบจัดการแพ็กเกจมาตรฐาน ในขณะที่ YUM (Yellowdog Updater, Modified) เป็นเครื่องมือจัดการแพ็กเกจที่นิยมใช้ในดิสทริบิวชันตระกูล Red Hat เช่น CentOS และ RHEL

ความแตกต่างระหว่าง APT และ YUM

  • APT (Advanced Package Tool)
    APT เป็นเครื่องมือหลักสำหรับ Ubuntu และ Debian โดยใช้คำสั่ง apt-get หรือ apt ในการติดตั้ง อัปเดต และลบแพ็กเกจ APT จะจัดการกับแพ็กเกจ DEB ซึ่งสามารถจัดการแพ็กเกจจากแหล่งซอฟต์แวร์ของ Ubuntu หรือ Debian ได้อย่างง่ายดาย
  • YUM (Yellowdog Updater, Modified)
    ในดิสทริบิวชันตระกูล Red Hat จะนิยมใช้ YUM ในการติดตั้งหรืออัปเดตแพ็กเกจในรูปแบบ RPM โดย YUM ถูกใช้กับ Red Hat Enterprise Linux, CentOS เป็นต้น

เหตุผลที่อาจต้องใช้ YUM บน Ubuntu

เหตุผลที่ควรใช้ YUM บน Ubuntu เช่น ผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับ YUM จากระบบ Red Hat หรือกรณีที่ต้องติดตั้งแพ็กเกจในรูปแบบ RPM อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วแนะนำให้ใช้ APT เป็นหลัก

3. เหตุผลที่ต้องติดตั้ง YUM บน Ubuntu

มีหลายกรณีที่จำเป็นต้องใช้ YUM บน Ubuntu โดยเฉพาะหากต้องใช้แพ็กเกจแบบ RPM หรือในสภาพแวดล้อมแบบไฮบริดที่องค์กรใช้งานทั้ง Red Hat และ Ubuntu ร่วมกัน การติดตั้ง YUM จึงมีความจำเป็นในบางกรณี

กรณีที่ต้องจัดการแพ็กเกจ RPM

โดยปกติ Ubuntu จะใช้แพ็กเกจแบบ DEB แต่ในบางครั้งซอฟต์แวร์อาจมีให้เฉพาะในรูปแบบ RPM เท่านั้น กรณีนี้ YUM จะช่วยให้สามารถติดตั้งและจัดการแพ็กเกจ RPM บน Ubuntu ได้

การใช้งาน YUM ในสภาพแวดล้อมแบบไฮบริด

องค์กรที่ใช้ดิสทริบิวชันตระกูล Red Hat มักจะใช้งาน Ubuntu ควบคู่กันไปด้วย ดังนั้นการใช้เครื่องมือจัดการแพ็กเกจเดียวกันอย่าง YUM ทั้งสองระบบ จะช่วยให้การดูแลและจัดการง่ายขึ้น

4. ขั้นตอนการติดตั้ง YUM

ขั้นตอนการติดตั้ง YUM บน Ubuntu ไม่ซับซ้อนมาก สามารถทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ได้เลย

วิธีติดตั้ง YUM

ก่อนอื่น ใช้คำสั่งด้านล่างนี้เพื่อติดตั้ง YUM

sudo apt-get update
sudo apt-get install yum

หลังจากติดตั้ง YUM แล้ว ควรติดตั้งคำสั่ง rpm เพิ่มเติมด้วย เพื่อใช้จัดการแพ็กเกจ RPM

sudo apt-get install rpm

เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้น ก็พร้อมสำหรับการจัดการแพ็กเกจ RPM บน Ubuntu แล้ว

5. ทางเลือกของ YUM: ใช้งาน APT ให้เต็มประสิทธิภาพ

APT เป็นเครื่องมือจัดการแพ็กเกจที่ใช้เป็นมาตรฐานใน Ubuntu และสามารถใช้จัดการซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่ได้อย่างครบถ้วน นี่คือวิธีการใช้งาน APT แทน YUM

วิธีใช้งานคำสั่งพื้นฐานของ APT

ขอแนะนำให้ใช้ APT ในการจัดการแพ็กเกจบน Ubuntu โดยใช้คำสั่งพื้นฐานดังนี้

  • ติดตั้งแพ็กเกจ:
  sudo apt install <ชื่อแพ็กเกจ>
  • อัปเดตแพ็กเกจ:
  sudo apt update
  sudo apt upgrade
  • ลบแพ็กเกจ:
  sudo apt remove <ชื่อแพ็กเกจ>

APT เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยจัดการการพึ่งพา (dependency) ของระบบโดยอัตโนมัติ สำหรับผู้ใช้ Ubuntu ส่วนใหญ่ APT จึงเป็นตัวเลือกที่ง่ายและสะดวกกว่า YUM

6. กรณีตัวอย่างจริง: เมื่อใดที่ YUM จำเป็นสำหรับแพ็กเกจ RPM

ตัวอย่างหนึ่งที่อาจจำเป็นต้องใช้ YUM บน Ubuntu คือเมื่อมีความต้องการติดตั้งแพ็กเกจ RPM เช่น ต้องการใช้ซอฟต์แวร์หรือเครื่องมือที่ออกแบบมาสำหรับระบบ Red Hat ภายในองค์กร

ตัวอย่างที่ 1: การติดตั้งแพ็กเกจ RPM

หากต้องการติดตั้งแพ็กเกจ RPM บน Ubuntu สามารถใช้ YUM ได้ ตัวอย่างเช่น หากซอฟต์แวร์มีเฉพาะไฟล์ RPM สามารถใช้คำสั่งนี้ในการติดตั้ง

sudo yum install <ชื่อแพ็กเกจ>.rpm

ตัวอย่างที่ 2: การจัดการระบบแบบไฮบริดในองค์กร

ถ้าองค์กรใช้งานทั้ง Ubuntu และ CentOS การใช้ YUM จะช่วยให้สามารถจัดการแพ็กเกจด้วยคำสั่งเดียวกันในทั้งสองระบบ ลดภาระของผู้ดูแลระบบและสร้างความสม่ำเสมอในการจัดการ

7. การแก้ปัญหาและคำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ในระหว่างการติดตั้ง YUM บน Ubuntu อาจพบปัญหาบางประการ ต่อไปนี้คือตัวอย่างปัญหาที่พบบ่อยและวิธีแก้ไข

ข้อผิดพลาดที่ 1: ข้อขัดแย้งของ dependency

เมื่อทำการติดตั้ง YUM อาจพบปัญหา dependency ไม่ครบถ้วน สามารถแก้ไขได้โดยติดตั้งไลบรารีหรือแพ็กเกจที่จำเป็นด้วยคำสั่ง APT

sudo apt-get install <ชื่อไลบรารี>

ข้อผิดพลาดที่ 2: ไม่พบแพ็กเกจที่ต้องการ

ถ้า YUM ไม่สามารถติดตั้งแพ็กเกจที่ต้องการได้ อาจเกิดจากการตั้งค่า repository ไม่ถูกต้อง ควรตรวจสอบการตั้งค่า YUM repository สำหรับ Ubuntu และเพิ่มแหล่งซอฟต์แวร์ใหม่หากจำเป็น

8. สรุปและแนวโน้มในอนาคต

บทความนี้ได้นำเสนอวิธีการใช้งาน YUM บน Ubuntu และอธิบายความจำเป็นของ YUM ถึงแม้ว่า YUM จะเป็นเครื่องมือสำหรับระบบ Red Hat เป็นหลัก แต่ก็ยังมีบางกรณีที่สามารถใช้งานบน Ubuntu ได้ อย่างไรก็ตาม APT เป็นเครื่องมือมาตรฐานสำหรับผู้ใช้ Ubuntu และเหมาะสมที่สุดในกรณีส่วนใหญ่

ในอนาคต เมื่อมีซอฟต์แวร์มากขึ้นที่รองรับผ่าน APT repository ความจำเป็นในการใช้ YUM อาจลดลง แต่อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ YUM ยังมีบทบาทสำคัญในบางสถานการณ์เฉพาะ